ปวดหลังส่วนเอวด้านขวา, ซ้าย, ระหว่างใบไหล่

โลกสมัยใหม่เต็มไปด้วยปัจจัยหลายอย่างที่สามารถก่อให้เกิดอาการปวดทุกชนิดได้ ดังนั้น hypodynamia อย่างกว้างขวางทำงานอยู่ประจำและวิถีชีวิตที่ผิดปกติมักนำไปสู่ความจริงที่ว่าผู้คนมีอาการปวดหลังส่วนเอว: นี่เป็นโซนแรกที่ตอบสนองต่อแรงมากเกินไปและการยกน้ำหนัก นอกจากนี้ความเจ็บปวดสามารถฉายรังสีจากบริเวณอื่น ๆ และอวัยวะต่างๆ

งานหลักของบุคคลที่ได้รับการพัฒนาอาการไม่พึงประสงค์เช่นการตอบสนองอย่างรวดเร็วและรวดเร็วและปรึกษาแพทย์

สาเหตุ ปวดหลังส่วนหลังส่วนล่าง

ไม่มีรากที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังเหนือเอ็นร้อยหวาย เช่นเดียวกับความเจ็บปวดที่ตัวเองสามารถมีความหลากหลายของตัวละครขึ้นอยู่กับเหตุผล ในผู้ป่วยบางรายอาการปวดจะทวีความรุนแรงขึ้นภายใต้อิทธิพลของการออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวของมอเตอร์ในขณะที่อาการปวดอื่น ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงที่เหลือเช่นในช่วงเวลากลางคืน ผู้ป่วยบางรายบ่นเฉพาะอาการปวดหลังด้านบนของเนื้อซี่โครงและบางคนระบุอาการหลายครั้งเช่นอาการปวดอาจรวมกับไข้คลื่นไส้การหายใจลำบากเป็นต้น

หากมีอาการปวดกลุ่มอาการผิดปกติก็จะผิดพลาดทันทีที่ "ตำหนิ" กระดูกสันหลัง อาการปวดหลังส่วนบนหลังส่วนหลังส่วนล่างอาจเกิดจากโรคภายในอวัยวะต่างๆเช่นระบบทางเดินอาหารระบบทางเดินปัสสาวะ ในสตรีบางรายอาการปวดนี้สามารถสังเกตได้ในระหว่างตั้งครรภ์และเริ่มมีอาการของรอบเดือน

อย่างไรก็ตามสาเหตุส่วนใหญ่ของแพทย์พิจารณาพยาธิวิทยาและการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อรัดตัวหลัง ตามสถิติความเจ็บปวดมักจะถูกกระตุ้นโดยโรคกระดูกพรุนซึ่งจะมาพร้อมกับการเสื่อมสภาพของการทำงานของแผ่นดิสก์ intervertebral

อาการปวดหลังชาร์ปเกิดขึ้นเมื่อการโจมตีของอาการปวดตะโพกหรือไส้เลื่อน intervertebral อาการปวดที่วาดเป็นลักษณะของความโค้งของกระดูกสันหลัง สาเหตุที่เป็นไปได้อื่น ๆ อาจเป็น:

• กระบวนการอักเสบ, การติดเชื้อ (วัณโรค, โรคไขข้ออักเสบ, ฝี epidural, brucellosis);
• กระบวนการเนื้องอกในกระดูกสันหลัง
• ประสาท, ปวดกล้ามเนื้อ

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยที่สามารถกระตุ้นความเจ็บปวดหลังส่วนเอวให้แตกต่างกันมาก:

• พันธุกรรมพันธุกรรม;
• ลักษณะเฉพาะของกิจกรรมทางวิชาชีพ (การปรากฏตัวของแรงกระแทกทางสถิติมากเกินไปการเข้าพักระยะยาวในตำแหน่งอึดอัดการกระทำของการสั่นสะเทือน ฯลฯ );
• hypodynamia, การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันเพื่อการออกกำลังกาย;
• supercoolings ท้องถิ่นและทั่วไป;
• ท่าทางไม่ถูกต้อง;
• การติดเชื้อบ่อย, โรคของอวัยวะย่อยอาหาร;
• โรคอ้วน, ความผิดปกติของการเผาผลาญ
• นิสัยไม่ดีการรับประทานอาหารที่ไม่แข็งแรง
• วัยสูงอายุ (การเปลี่ยนแปลงอายุในระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูกการปรากฏตัวของโรคเรื้อรัง);
• osteomalacia, โรคกระดูกพรุน;
• กระบวนการเนื้องอกในร่างกาย
• โรคที่มีผลต่ออวัยวะของกระดูกเชิงกรานขนาดเล็ก (ไต, ทรงกลมการสืบพันธุ์)

[1], [2],

อาการ

สำหรับคำอธิบายที่ถูกต้องเกี่ยวกับสาเหตุของอาการปวดแพทย์จะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับสถานที่นั้น

• ความเจ็บปวดด้านหลังของเอวด้านข้างพร้อมกับโรคของระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูก ในบรรดาโรคดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ bruises หรือบาดเจ็บอื่น ๆ และรุนแรง degenerative กระบวนการในกระดูกสันหลัง. นอกจากนี้ยังพบอาการคล้าย ๆ กันในโรคทางเดินหายใจ(เช่นโรคข้อเข่าเสื่อม, โรคBekhterev )
• อาการปวดหลังด้านขวาเหนือด้านหลังส่วนล่างจะสังเกตได้เมื่อปอดได้รับผลกระทบพร้อมกันกับการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปสู่เยื่อหุ้มปอด เป็นอาการเพิ่มเติมการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินหายใจมี จำกัด การหายใจไม่ออกเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับด้านขวาอาการปวดหลังด้านซ้ายบนด้านหลังส่วนล่างสามารถปรากฏขึ้นเมื่อกระบวนการทางพยาธิวิทยาในเนื้อเยื่อปอดถูกแปลเป็นภาษาท้องถิ่น
• อาการปวดหลังส่วนบนหลังส่วนล่างไม่ได้หมายความว่าพยาธิวิทยาของกระดูกสันหลัง บางครั้งปัญหาที่ควรจะหาในอวัยวะภายใน - ตัวอย่างเช่นในไต ในผู้ป่วยบางรายปวดคมชัดในการกลับมาของเขากลายเป็นหนึ่งในอาการของกล้ามเนื้อหัวใจตาย
• อาการปวดหลังตอนเช้าเหนือหลังส่วนหลังส่วนล่างสามารถเกิดกับโรคกระดูกสันหลังเช่นโรคข้อเข่าเสื่อม, ไส้เลื่อนระหว่างทวารหนักรวมถึงโรคกระเพาะปัสสาวะวิทยา, โรคหัวใจ
• อาการปวดหลังในตอนกลางคืนเหนือหลังส่วนล่างสามารถบ่งบอกว่าเป็นโรคของระบบทางเดินอาหาร: แผลในกระเพาะอาหาร, แผลในกระเพาะอาหาร, ถุงน้ำดีอักเสบ ปวดดังกล่าวไม่ได้ผิดปกติในความพ่ายแพ้ของกล้ามเนื้อด้านหลังและกระดูกสันหลัง
• ปวดหลังส่วนบนของเนื้อซี่งระหว่างแรงบันดาลใจอาจเป็นสัญญาณของโรคทางระบบประสาทโรคหัวใจ แต่ส่วนใหญ่อาการนี้บ่งชี้ว่ามีอาการของโรคประสาทระหว่างต่อมน้ำ
• ปวดหลังในระหว่างการเคลื่อนไหวเหนือเนื้อซี่โครงมักจะปรากฏขึ้นกับพื้นหลังของความเสียหายต่อดิสก์ mech-vertebra หรือ osteochondrosis ความรู้สึกที่ไม่พึงประสงค์สามารถขยายไปถึงขาด้านล่างในขาหนีบได้ ความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นจะสังเกตเห็นได้จากการออกกำลังกาย
• ความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อหลังส่วนบนหลังส่วนหลังส่วนล่างจะปรากฏขึ้นพร้อมกับการบาดเจ็บกล้ามเนื้ออักเสบหลังจากการออกกำลังกายหนักหลังภาวะอุณหภูมิที่รุนแรง ในการชี้แจงการวินิจฉัยโรคจำเป็นต้องทำการวินิจฉัยอย่างละเอียด

ลักษณะของอาการปวด

ลักษณะของอาการปวดกลุ่มอาการเจ็บปวดก็ถูกนำมาพิจารณาในการวินิจฉัย

• Aching ในด้านหลังด้านหลังด้านล่างสามารถพูดคุยเกี่ยวกับ osteochondrois เอว spondylosis และกระบวนการทางพยาธิวิทยาอื่น ๆ ในกระดูกสันหลัง ถ้าอาการปวดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิลดลงเราสามารถคาดเดาได้ว่าเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อส่วนเอว (โรคกล้ามเนื้อไมเกรน)
• การวาดอาการปวดหลังส่วนล่างหลังอาจเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราวที่เกิดขึ้นหลังจากความเครียดทางกายภาพที่แข็งแกร่งหลังจากที่อยู่ในสภาพอึดอัดนาน ความรู้สึกในการวาดภาพไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บที่หลังและตอนนี้กำลังประสบกับความเจ็บปวดที่เรียกว่า "สภาพอากาศ"
• อาการปวดเอวด้านหลังเหนือเอวมักจะแสดงให้เห็นการปรากฏตัวของ pyelonephritis ที่ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันเพื่อcholelithiasis อย่างน้อย - เกี่ยวกับปัญหาที่มีกล้ามเนื้อหัวใจ
• อาการปวดหลังที่รุนแรงกว่าเนื้อซี่โครงอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการเคลื่อนไหวของก้อนหินในไตเช่นเดียวกับอาการกำเริบของโรคอักเสบในลำไส้การอักเสบของท่อไตและการแตกของการศึกษาในสตรีที่เป็น cystic
• อาการปวดเฉียบพลันที่ด้านหลังของเอวมักเรียกว่า "lumbago" มันสามารถทำหน้าที่เป็นภาวะแทรกซ้อนของ scoliosis เมื่อเส้นประสาทที่ติดขัดเนื่องจากความคลาดเคลื่อนของแผ่นดิสก์ ไม่น้อยมักจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปกระดูก osteochondrosis กับการบีบอัดของเส้นประสาทของไส้เลื่อนระหว่าง intervertebral
• ความเจ็บปวดทึบด้านหลังส่วนล่างหลังบางครั้งบ่งบอกถึงปัญหาไต นอกจากนี้อาการปวดดังกล่าวยังสามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากการทาบทามหลังจากยกของหนักหรือการเคลื่อนไหวของมอเตอร์ที่มีฤทธิ์รุนแรงในร่างกายซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุกได้
• ความเจ็บปวดจากด้านหลังส่วนหลังส่วนหลังส่วนล่างจะถูกตรวจพบเมื่อรากประสาทเกิดกับเส้นประสาทที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ในฐานะที่เป็นความแตกต่างควรได้รับการพิจารณาการโจมตีของโรคถุงน้ำดีเฉียบพลันหรือตับอ่อนอักเสบ

อาการปวดหลังเหนือเนื้อซี่โครงระหว่างตั้งครรภ์

สิ่งมีชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ทำงานร่วมกับภาระที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเขาต้องการที่จะพัฒนาบุตรคนในอนาคตให้สมบูรณ์ บางครั้งเกิดจากการโหลดเหล่านี้อาจต้องทนทุกข์ทรมานและร่างกายของผู้หญิงเช่นโดยการเพิ่มน้ำหนักของทารกในครรภ์จะย้ายศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงในร่างกายของหญิงมีครรภ์ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการปวดในด้านหลังเหนือเอวและระหว่างหัวไหล่

ผู้หญิงมากมักจะอยู่ในฐานะที่จะบ่นของอาการปวดหลังหากพวกเขามีก่อนการตั้งครรภ์มีปัญหากับระบบกล้ามเนื้อ ตัวอย่างเช่นหากหญิงตั้งครรภ์ที่มีความโค้งของกระดูกสันหลังได้รับการพัฒนาไม่ดีกล้ามเนื้อเอวหรือมีสัญญาณของโรคข้อเข่าเสื่อมก็จะเข้าสู่ความเสี่ยงของการเกิดอาการปวดหลังรวมทั้งเหนือเอว นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเป็นผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกิน: กระดูกสันหลังของพวกเขาจะประสบภาระในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น

โรคอาการปวดมักจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีการตั้งครรภ์ที่สอง แต่ก็เป็นไปได้และมีอาการเริ่มแรกของอาการไม่สบาย มากขึ้นอยู่กับวิถีการดำเนินชีวิตของหญิงตั้งครรภ์เกี่ยวกับระดับของการออกกำลังกายและปัจจัยอื่น ๆ

ตามสถิติอาการปวดหลังส่วนเอวในสตรีที่รอทารกปรากฏว่าประมาณ 40% ของกรณีและหลังคลอด 68% ของผู้ป่วย

[3], [4]

การวินิจฉัย ปวดหลังส่วนหลังส่วนล่าง

ขั้นตอนแรกของการวินิจฉัยคือการพูดคุยกับแพทย์ซึ่งในระหว่างที่ผู้ป่วยควรให้ความสำคัญกับอาการปวดหลังส่วนเอวให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การพิจารณาของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญมาก ในขั้นตอนนี้แพทย์สามารถทำการวินิจฉัยเบื้องต้นได้ สำหรับการตรวจวินิจฉัยขั้นสุดท้ายจะต้องมีการวินิจฉัยเพิ่มเติม

การวิเคราะห์จะมีการกำหนดไว้เฉพาะเมื่อจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อหรือเพื่อยืนยันการปรากฏตัวของกระบวนการอักเสบ ในการนี้ควรมีการตรวจเลือดโดยทั่วไปและทางชีวเคมี หากสงสัยว่าเป็นโรคไตการวิเคราะห์ปัสสาวะจะทำตามที่ได้มีการประเมินการทำงานของไต

หากมีข้อเสนอแนะว่าอาการปวดหลังสูงกว่าหลังส่วนล่างที่เกิดจากพยาธิสภาพต้นแบบหรือหากมีอาการปวดอยู่เป็นเวลานานจะมีการวินิจฉัยเกี่ยวกับเครื่องมือเพิ่มเติม

ถ้าปัญหาน่าจะเป็นที่ซ่อนอยู่ในแผ่นเส้นประสาทเส้นเอ็นแล้วการศึกษาด้วยรังสีเอ็กเอ็มแอลมีการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือการถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเสียหายของไตจะมีการตรวจอัลตราซาวนด์

[5]

การวินิจฉัยที่แตกต่างกัน

การวิเคราะห์ความแตกต่างมีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรค somatic และ vertebral-vertebral somatic disease รายละเอียดของความแตกต่างดังกล่าวสามารถอธิบายได้โดยสังเขปในตาราง:

โรค	ลักษณะอาการ
การตัดทอนโป่งพอง	มีแนวโน้มที่จะมีความดันโลหิตสูงอาการเจ็บหน้าอกบริเวณด้านบนเอวและระหว่างใบไหล่การละเมิดจังหวะการเต้นของหัวใจ
การโจมตีแบบเฉียบพลันของอาการจุกเสียดไต	ปวดหลังส่วนบนหลังส่วนล่างที่เกิดจากการคายน้ำการออกกำลังกายที่รุนแรงอาจมีอาการคลื่นไส้ (อาเจียน), hematuria
การอักเสบเฉียบพลันของตับอ่อนอักเสบ	ความเจ็บปวดที่อยู่เหนือบริเวณเอวช่วยให้กระดูกสะบักหรือไหปลาร้าอยู่ทางด้านซ้าย บ่อยครั้งที่มีการอาเจียนโดยไม่ช่วยบรรเทาการสะสมแก๊สที่เพิ่มขึ้น
กระบวนการติดเชื้อและอักเสบในกระดูกสันหลัง	การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิของร่างกายการปรากฏตัวของความรุนแรงในท้องถิ่นและ hyperthermia ในท้องถิ่นการปรากฏตัวของสัญญาณของกระบวนการอักเสบในการวิเคราะห์เลือด
กระบวนการเนื้องอกในกระดูกสันหลัง	การลดน้ำหนักโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนการปรากฏตัวของความเจ็บปวดตลอดเวลาไม่ขึ้นกับภาระการขาดผลของการใช้ยาแก้ปวดแบบธรรมดา
การบาดเจ็บการบีบอัดของกระดูกสันหลัง	ได้รับบาดเจ็บการออกกำลังกายที่มากเกินไปใน anamnesis, การรักษาด้วย glucocorticoids นาน, ชาของแขน, ความเจ็บปวดในท้องถิ่นระหว่าง palpation
Spondylitis	อาการปวดหลังส่วนเอวตอนเช้าส่วนที่เหลือลดลงในระหว่างการเคลื่อนไหว การแสดงตนของความแข็งแรงในตอนเช้าอาการอักเสบในการวิเคราะห์เลือด

[6], [7], [8]

การรักษา ปวดหลังส่วนหลังส่วนล่าง

ไม่มีแพทย์กล้าที่จะกำหนดให้การรักษาอาการปวดหลังส่วนเอวถ้าเขาไม่รู้สาเหตุเดิมของอาการดังกล่าว หลังจากได้รับการวินิจฉัยอย่างรอบคอบและหลังจากได้ศึกษาผลการรักษาแล้ว

การรักษาอาการปวดที่มีอาการอาจรวมถึงยาดังกล่าว:

• พาราเซตามอลเป็นยาที่ราคาไม่แพงและเป็นที่นิยมมากที่สุดที่ใช้สำหรับอาการปวดหลังปานกลางเหนือเอว ควรรับประทานยาเม็ดเป็นระยะ ๆ 500 มก. ถึงสี่ครั้งต่อวัน ปริมาณสูงสุดที่เป็นไปได้ต่อวันคือ 4 กรัมและระยะเวลารวมของหลักสูตรการรักษานานถึงห้าวัน ปริมาณที่เสนอไว้มีความปลอดภัยและแทบไม่เคยมาพร้อมกับการเกิดผลข้างเคียง (โดยที่ไม่มีความรู้สึกไวต่อยาพาราเซตามอล)
• ยาต้านการอักเสบ nonsteroidal ช่วยลดอาการปวดหลังที่รุนแรงมาก ความสามารถในการบรรเทาปวดระคายเคืองของยาดังกล่าวสูงกว่า Paracetamol ยาเสพติดไม่ steroidal เฉพาะจะถูกเลือกโดยคำนึงถึงเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เป็นไปได้: ยกตัวอย่างเช่นเนื่องจากความน่าจะเป็นสูงของการล่มสลายของระบบย่อยอาหารยาเสพติดดังกล่าวไม่ควรจะใช้สำหรับในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น 12 แผล นอกจากนี้คุณต้องจำไว้ว่ายากลุ่มนี้จะไม่สามารถบรรเทาอาการปวดในด้านหลังของต้นกำเนิด radicular

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ความเจ็บปวดด้านหลังส่วนหลังส่วนล่างเพื่อใช้ NSAIDs ดังกล่าว:

1. ระดับของสารยับยั้งการไม่เลือกของ cyclooxygenase 2 (ก Diclofenac 75-150 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับทั้งสองขั้นตอน ketoprofen 100-300 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับทั้งสองขั้นตอน dexketoprofen 25-75 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับหลายขั้นตอน ketorolac 20 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับสอง เข้ารับการรักษา Lornoxicam จาก 8 ถึง 16 มก. ต่อวันสำหรับสองครั้ง)
2. (Nimesulide 200 มก. ต่อวันสำหรับสองปริมาณ celecoxib 200 ถึง 400 มก. ต่อวันสำหรับสองปริมาณ)

• เตรียม Miorelaksirutee - ที่ได้รับมอบหมายถ้าอาการปวดหลังมีสาเหตุดังกล่าวข้างต้นอาการกระตุกของกล้ามเนื้อเอวและไม่มีผลกระทบต่อยาพาราเซตามอลหรือตัวแทนไม่ steroidal หลักสูตรการคลายกล้ามเนื้อมักสั้น - ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ แพทย์สามารถกำหนด benzodiazepine ยาเสพติด (Tetrazepam, Diazepam) ไปชุด nonbenzodiazepine (Baclofen, flupirtine, tizanidine ฯลฯ ) ปริมาณของยาเสพติดจะถูกพิจารณาเป็นรายบุคคลในมุมมองของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่พึงประสงค์ (เวียนศีรษะ, ความดันโลหิตต่ำ, ความเมื่อยล้า) ปริมาณที่แนะนำอาจเป็น:
  • Tizanidine - 2-4 มก. ถึงสามครั้งต่อวัน;
  • Tolperisone - 150 มก. สามครั้งต่อวัน

ถ้าการรักษาด้วยยาพาราเซตามค์หรือยาที่ไม่ใช่ steroidal เพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้ผล

• หนึ่งในการเตรียมยาที่ไม่ใช่ steroid + การกระทำที่อ่อนนุ่ม (Tramadol);
• ยาพาราเซตามอล + ยาลดความอ้วน (ตัวอย่างเช่นเตรียมยา Zaldiar พร้อมกัน 3 เม็ดต่อวัน)
• ยาเสพติด nonsteroidal + คลายกล้ามเนื้อ

วิตามิน

สำหรับการรักษาอาการปวดหลังเหนือเนื้อซี่โครงแพทย์ควรใช้ยาที่มีวิตามินบียาเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับปัญหาทางระบบประสาทและขจัดความรู้สึกเจ็บปวด

• วิตามินบี₁  ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของเนื้อเยื่อเส้นประสาทลดอาการปวด
• Pyridoxine หรือวิตามินบี_{6 ช่วย}  เสริมการทำงานของระบบประสาทช่วยเพิ่มการนำกระแสประสาท
• วิตามินดีปกติการดูดซึมของแคลเซียมฟอสฟอรัสแมกนีเซียมช่วยเพิ่มองค์ประกอบของเนื้อเยื่อกระดูก
• กรดแอสคอร์บิกจะหยุดยั้งกระบวนการออกซิเดชั่นในเนื้อเยื่อกำจัดการอักเสบช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหารส่งเสริมการผลิตเส้นใยคอลลาเจนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลัง
• วิตามิน A และ E ถูกถ่ายควบคู่กันไป ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความยืดหยุ่นของผิว

การรักษาทางกายภาพบำบัด

เป็นการยากที่จะจินตนาการการรักษาอาการปวดหลังเหนือเนื้อซี่โครงโดยไม่ใช้วิธีกายภาพบำบัด กายภาพบำบัดมีอาการปวดลดผลต้านการอักเสบบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อกระตุกปรับปรุงเสียงของกล้ามเนื้อลดลง

อาการปวดหลังถือว่าเป็นวิธีการขั้นพื้นฐานดังนี้

• การไฟฟ้าสถิต - ส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อที่มีกระแสไฟฟ้าอ่อนในการปรับปรุงระบบกล้ามเนื้อและโทนเสียง
• electrophoresis - การแนะนำของสารสมุนไพรโดยตรงในเนื้อเยื่อได้รับผลกระทบโดยไม่ต้องโหลดเป็นพิษเพิ่มเติมในร่างกาย;
• phonophoresis - ขั้นตอนคล้ายกับ electrophoresis (อัลตราซาวด์จะใช้แทนของปัจจุบัน);
• UHF - ผลกระทบของคลื่นสนามไฟฟ้าความถี่สูง (40.68 MHz);
• parafinoterapiya - สูตรของการประยุกต์ใช้พาราฟินซึ่งช่วยให้การไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองในเนื้อเยื่อกระตุ้นการเผาผลาญกระบวนการ;
• detensor therapy - ขั้นตอนในการยืดและขนกระดูกสันหลัง (สามารถกำหนดได้สำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังและการบีบอัดบาดแผล)
• การรักษาคลื่นช็อก - ใช้สำหรับโรคความเสื่อม - dystrophic ของกระดูกสันหลัง;
• เลเซอร์บำบัด - ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหารในความผิดปกติของ dystrophic - dystrophic ของกระดูกสันหลังและข้อต่อ;
• magnetotherapy - กระตุ้นปฏิกิริยาชดเชยการปรับตัวกระตุ้นการสำรองภายในของร่างกายเพื่อต่อสู้กับพยาธิวิทยา

การรักษาทางเลือก

ความแข็งแรงของการรักษาทางเลือกจะอธิบายโดยธรรมชาติของพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาจำเป็นต้องใช้รู้สาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดหลังส่วนบนหลังส่วนล่างและหลังจากได้รับการปรึกษาเบื้องต้นกับแพทย์แล้ว

• ส่วนผสมของน้ำมันจากใบเบิร์ชและสาโทเซนต์จอห์นจะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ส่วนผสมนี้จะทาบริเวณที่ได้รับผลกระทบวันละครั้งก่อนนอน
• เพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและบรรเทาอาการปวดถูพื้นที่เหนือเนื้อซี่โครงด้วย tincture กระเทียม ฟันกระเทียมถูกทับและเทด้วยวอดก้าเก็บไว้ในที่มืดเป็นเวลา 10 วัน การบีบอัดตามทินเนอร์นี้เป็นสิ่งที่ดี แต่สามารถนำมาวางไว้ได้เพียง 30-40 นาทีเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง
• ใช้ใบ Kalanchoe บดที่สดใหม่ไปยังพื้นที่ที่เป็นโรคเหนือต้นเนื้อซี่โครง เป็นสิ่งที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสิ่งที่แนบมาดังกล่าวจะทำหลังจากการนวดหลังกลับ
• การบีบอัดตามไขมันม้ามีผลดี ไขมันกระจายอยู่ในชั้นเดียวปกคลุมด้วยฟิล์มและยึดติดกับพลาสเตอร์ปิดแผล ผู้ป่วยอ้างว่าอาการปวดหลังส่วนล่างหลังผ่านไปหลังจากผ่านไป 1.5 ชั่วโมง
• Fir ในพื้นที่หลัง fir น้ำมันหอมระเหย

[9], [10], [11], [12]

การรักษาด้วยสมุนไพร

• พืชร่าเริง (comfrey) ได้พิสูจน์ตัวเองในการรักษาอาการปวดหลังที่เกี่ยวข้องกับ osteochondroza และ hernias intervertebral ขันผ่านเครื่องบดเนื้อสดเหง้าของพืชและผสมกับหุ้นเท่ากับของน้ำผึ้ง มวลที่เกิดขึ้นใช้สำหรับ 1 ช้อนชา ทุกวันในขณะท้องว่าง ระยะเวลาในการรักษาคือ 10 วันหลังจากนั้นจะหยุดพักและรักษาต่อ มักใช้จ่ายหลักสูตรดังกล่าว 2-4 หลักสูตร
• นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาภายนอกโดยคนที่มีมารยาท แช่น้ำผึ้ง 50 กรัมใส่น้ำวุ้นประมาณ 0.7 ลิตรและยืนเป็นเวลาสองสัปดาห์ ทิงเจอร์ที่ได้รับจะถูกกรองและใช้ในการตั้งค่าการบีบอัดไปยังตำแหน่งของอาการปวดที่ด้านหลัง (เหนือเอว) ระยะเวลาในการรักษา - 10 วันหลังจากนั้นพักเดียวกัน รวม 2-4 หลักสูตร
• เติมแกงจืดที่บดขยี้ 300 กรัมของกระบี่ด้วยวอดก้าจำนวนมากเพื่อให้ครอบคลุมวัตถุดิบได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นใส่คอนเทนเนอร์ในที่มืดและยืนเป็นเวลา 21 วันหลังจากนั้นจะกรองและกรองน้ำที่ 1 ช้อนโต๊ะ ล. สามครั้งต่อวัน (คุณสามารถดื่มด้วยการจิบน้ำ) ดื่มเครื่องทินเนอร์ทั้งหมดพักอยู่ในการรักษาเป็นเวลา 4 สัปดาห์และใช้เวลาเรียนที่สอง
• ต้นสนสดจะถูกเลื่อนผ่านเครื่องบดเนื้อในปริมาณที่ไห 3 ลิตรเต็ม มี 200 กรัมของน้ำตาลจะถูกปกคลุมยังมีการผสมปกคลุมด้วยฝาและวางไว้ในตู้เย็น เมื่อมวลกลายเป็นสีน้ำตาลยาก็พร้อมแล้ว รับประทานภายใน 30 นาทีก่อนอาหาร 4 ครั้งต่อวัน 1 ช้อนชา การรักษาจะสิ้นสุดลงเมื่อรับประทานยาทั้งหมด

ธรรมชาติบำบัด

คุณสามารถคาดหวังการปรับปรุงที่เห็นได้ชัดในสภาพของผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังเหนือหลังส่วนล่างถ้าการรักษามีวิธีการรักษาหลายวิธี ซึ่งรวมถึงการใช้ยาการรักษาด้วยการออกกำลังกายการนวดกดจุดสะท้อนและการรักษาด้วย homeopathic

สำหรับการรักษากระดูกสันหลังส่วนที่เป็นเอวและบริเวณด้านหลังส่วนล่างการฉีดยาด้วยยาดังกล่าวใช้:

• วัตถุประสงค์ของ T คือการฉีดเข้ากล้ามหรือฉีดใต้ผิวหนังหนึ่งหลอดสัปดาห์ละสองครั้ง
• Traumeel C มีการฉีดยาแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือแบบแบ่งส่วน (biopuncture) หนึ่งหลอดทุกวันในระยะเฉียบพลันของอาการปวดหลัง หลังจากการฟื้นฟูสภาพเป็นไปได้ก็จะสามารถผ่านไปรับแท็บเล็ต Traumel With ได้
• Diskus compositum ฉีดเข้ากล้ามหรือฉีดใต้ผิวหนังบนหนึ่งหลอด 2.2 มล. จากหนึ่งถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ ระยะเวลาในการรักษาคือ 1-1.5 เดือน

เงินทุนดังกล่าวช่วยขจัดปฏิกิริยาการอักเสบรักษาเสถียรภาพของกระบวนการเผาผลาญอาหารทำให้เกิดปฏิกิริยาการฟื้นฟูที่ระดับโครงสร้างเซลล์ ความเสี่ยงของผลข้างเคียงในกรณีนี้ถึงขั้นต่ำ: การเตรียมชีวมวลมีความปลอดภัยและไม่ค่อยเกิดอาการทางลบใด ๆ เพิ่มเติม

การผ่าตัดรักษา

โรคที่พบมากที่สุดพร้อมด้วยอาการปวดหลังและต้องมีการแทรกแซงการผ่าตัดคือไส้เลื่อนระหว่างกระดูกสันหลังและตีบของคอลัมน์กระดูกสันหลังส่วนเอว (lumbar vertebral column) พยาธิสภาพเหล่านี้ก่อให้เกิดอาการปวดที่ส่วนหลังส่วนหลังส่วนล่างหรือด้านบนมีการฉายรังสีในส่วนล่าง ผู้ป่วยแต่ละรายบ่นว่าเดินหรือปัสสาวะยากและบางครั้งก็เกิดอัมพาตกล้ามเนื้อขึ้น

สิ่งบ่งชี้สำหรับการรักษาผ่าตัดอาจรวมถึง:

• spondylolisthesis (การเคลื่อนที่ของกระดูกสันหลัง);
• เนื้องอกของกระดูกสันหลัง, ไต

คำถามในการดำเนินการแทรกแซงการผ่าตัดจะมีการตัดสินใจเป็นรายบุคคล

ภาวะแทรกซ้อนและผลกระทบ

เนื่องจากสาเหตุของอาการปวดหลังเหนือเนื้อซี่โครงอาจแตกต่างกันมากจึงเป็นเรื่องยากที่จะพูดถึงผลกระทบหรือภาวะแทรกซ้อนที่เฉพาะเจาะจง พยาธิวิทยาก่อให้เกิดอาการปวดอาจจะมีการแปลโดยตรงไปยังโซนเอว (ในกระดูกสันหลังอุปกรณ์กล้ามเนื้อเอ็น, รากประสาทและอื่น ๆ .) เช่นเดียวกับในอวัยวะอื่น ๆ มักจะมีอาการปวดเป็นผลมาจากโรคบางอย่างของระบบประสาทส่วนกลางประสาทรบกวนการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้อง, โรคอวัยวะอยู่ในกระดูกเชิงกรานและหน้าท้อง ในกรณีที่ไม่มีไม่สามารถเป็นที่สัญญาณแรกของอาการปวดในด้านหลังเหนือเอวทันที "ที่จะนำการวินิจฉัย" อาการปวดตะโพกและเริ่มที่จะรักษาตัวเอง แม้แต่หมอที่ไม่ได้มีผลวินิจฉัยในมือก็ไม่สามารถระบุสาเหตุของอาการปวดดังกล่าวได้

ถ้ามันเป็นความผิดที่จะรักษาหรือสมบูรณ์ละเว้นการรักษาแล้วความหลากหลายของภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพัฒนา:

• อาการปวดเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับความพ่ายแพ้ของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อหลัง;
• radiculopathy, ไมเกรน;
• ความผิดปรกติของไต
• ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง;
• ไส้เลื่อนและโรคอื่น ๆ ของกระดูกสันหลัง

[13], [14], [15], [16]

การป้องกัน

เพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหลังส่วนบนหลังเอวหรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลังคุณต้องฟังคำแนะนำต่อไปนี้:

• นอนหลับสบายอยู่ในสภาพที่สะดวกสบายโดยใช้ที่นอนเกี่ยวกับศัลยกรรมกระดูก
• ใช้ความระมัดระวังและกฎความปลอดภัยในการเล่นกีฬาไม่ให้เกินกำลังของเครื่องมือกล้ามเนื้อและโครงกระดูกเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ
• ตามตำแหน่งของด้านหลังเรียนรู้ที่จะรักษาท่าทาง;
• หลีกเลี่ยงภาวะ hypodynamia ออกกำลังกายอย่างอ่อนโยน
• ไม่ละเลยทัวร์เดิน;
• อย่ากินมากเกินไปตามน้ำหนักตัว
• ดื่มน้ำมากพอ
• นอนหลับให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและพักผ่อน
• ไม่ได้มีส่วนร่วมในการรักษาตัวเองและถ้าจำเป็นให้ไปหาหมอ

[17], [18], [19], [20], [21]

พยากรณ์

ในผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการปวดหลังเหนือเนื้อซี่โครงหมายถึงสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งโดยทั่วไปมีการพยากรณ์โรคที่ดี ในอนาคตเมื่อเสร็จสิ้นการรักษาแล้วจำเป็นที่จะต้องกำหนดความเป็นไปได้ของผู้ป่วยต่อกลุ่มเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอาการกำเริบและอาการปวดเรื้อรัง ควรให้ความสำคัญกับลักษณะของกิจกรรมทางวิชาชีพปัจจัยทางจิตสังคมวิถีชีวิตและโภชนาการของผู้ป่วย

[22], [23], [24],