Surdopedahoh

ครูผู้สูงอายุ - ไม่ค่อยมีชื่อในหมู่ชาวกรุง แม้ว่าเราทุกคนรู้ว่ามีล่ามภาษามือลงชื่อเข้าใช้ภาษา

[1], [2],

ผู้ปกครองคือใคร?

ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เป็นผู้แปลเสียงสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการได้ยิน นักบำบัดโรคยังทำหน้าที่ในวงกว้างขึ้น ช่วยปรับตัวในชีวิตให้กับคนที่มีความสามารถในการได้ยินและการพูดที่ จำกัด อาชีพของคณาจารย์เป็นหลักความชำนาญแคบของ defectologist ที่ไม่เพียง แต่ศึกษาและแก้ไขความบกพร่องทางการได้ยิน แต่ยังมีส่วนร่วมในการปรับตัวทางสังคมและจิตใจของผู้ป่วยของเขา

สิ่งสำคัญคือต้องไม่สับสนในการทำงานของผู้ปกครองและแพทย์ของ otorhinolaryngologist แพทย์คนนี้มีส่วนร่วมในการวินิจฉัยปัญหาและพยาธิสภาพของหูคอและจมูกตลอดจนการรักษาของพวกเขา แต่ในเวลาเดียวกันเขาสนใจเฉพาะด้านการแพทย์ของปัญหา ให้ความสำคัญกับการขจัดความบกพร่องทางร่างกายการรักษาโรคที่เฉพาะเจาะจงไม่ว่าจะเป็นการแพทย์การผ่าตัดหรือวิธีการอื่นใด นักบำบัดโรคในทางกลับกันไม่ได้รักษาโรค แต่ช่วยให้อยู่กับพวกเขา แน่นอนว่ายังมีการแก้ไขบางอย่างการทำงานในการออกเสียงของเสียงการฝึกอบรมภาษามือ นอกจากนี้ surdopedagogy ทำงานร่วมกับเด็กที่ได้รับการปลูกถ่ายประสาทหูเทียม

เมื่อไรฉันควรติดต่อ surdopedagogist?

ศัลยแพทย์ - ครูไม่ได้เป็นหมอที่เด็กทุกคนได้ทำความคุ้นเคยในการตรวจสุขภาพที่วางแผนไว้ที่โรงพยาบาล โดยปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญคนนี้จะได้รับการรักษาเมื่อมีลักษณะอาการของโรคเหล่านั้นที่นักปฏิบัติงานลวงตาทำงาน บ่อยครั้งที่เด็ก ๆ กลายเป็นผู้ป่วยนอก แต่เด็กค่อนข้างเล็ก นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าถ้าความสามารถในการได้ยินเป็นโรคประสาทพ่อแม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเร็วพอที่เด็กไม่ตอบสนองต่อเสียง แต่เกี่ยวกับหมอคนหนึ่งที่เป็นนักหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผู้ปกครองไม่กี่คนรู้และไม่ใช่ในตำรวจทุกแห่งเขา ดังนั้นหากจำเป็นมักจะส่งไปยังแพทย์ดังกล่าวผู้เชี่ยวชาญอื่น - กุมารแพทย์, neuropathologist, ENT

แต่ความผิดปกติของการได้ยินยังสามารถได้รับแม้ในวัยที่มีขนาดเล็กมาก สาเหตุของอาการนี้อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนจากกระบวนการอักเสบของหูหรือลำคอ เพราะถ้าพ่อแม่รู้ว่าเด็กที่ได้รับความเดือดร้อนโรคและถ้าการรักษาที่ใช้ยาเสพติดที่อาจจะลดการได้ยินคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งควรสังเกตเด็กในกรณีที่สงสัยของการสูญเสียการได้ยินมันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้คำปรึกษาไม่เพียง แต่จะลอร่า แต่ และนักหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ข้อกังวลเดียวกันนี้ควรทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หูหรือศีรษะ ให้ความสำคัญกับความล่าช้าในการพัฒนาการพูดของเด็ก บางครั้งสาเหตุของปรากฏการณ์นี้อาจเป็นการละเมิดการรับรู้ของหู ดังนั้นในเรื่องนี้อาจต้องใช้ความช่วยเหลือจากผู้ปกครองของคณาจารย์

ต้องทำแบบทดสอบอะไรบ้างเมื่อฉันติดต่อ surdopedagogist?

ปัญหาสุขภาพที่คณะได้พิจารณาไว้มีหลายด้าน ดังที่กล่าวมาแล้วสาเหตุของการสูญเสียการได้ยินอาจเป็นโรคอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อพิจารณาสถานการณ์คุณจำเป็นต้องมีภาพรวมของสุขภาพเด็ก ดังนั้นในรายการของการวิเคราะห์เมื่อกล่าวถึงผู้ปกครองเช่นมาตรฐานและการวิเคราะห์ที่คุ้นเคยเช่นการทดสอบเลือดโดยทั่วไปการวิเคราะห์ปัสสาวะทั่วไปการวิเคราะห์ทั่วไปของอุจจาระจะใส่ อาจจำเป็นต้องมีการตรวจเลือดเพื่อหาอัตราการตกตะกอนของน้ำตาลกลูโคสและเม็ดเลือดแดง เนื่องจากสำหรับการประเมินเต็มรูปแบบของสาเหตุของการละเมิดที่คุณต้องรู้ว่ามีกระบวนการอักเสบที่ซ่อนอยู่สิ่งที่เป็นเงื่อนไขทั่วไปของผู้ป่วย นี้เป็นสิ่งจำเป็นไม่เพียง แต่สำหรับการวินิจฉัยโรค แต่ยังสำหรับการเลือกกลยุทธ์ที่ถูกต้องที่สุดของการแก้ไขและการรักษา

หากมีกระบวนการอักเสบที่อยู่ใกล้หูหรือในบางกรณีแนะนำให้ทำจุลชีววิทยาของของเหลวเพื่อตรวจหาเชื้อโรคในกระบวนการอักเสบได้แม่นยำมากขึ้น

นอกเหนือจากการศึกษาในห้องปฏิบัติการมาตรฐานแล้วเมื่อมีปัญหาในการรับรู้เกี่ยวกับเสียงสำหรับมุมมองที่กว้างขึ้นของสถานการณ์ก็เป็นไปได้ที่จะทำการศึกษาทางพันธุกรรมจำนวนมาก เนื่องจากการเชื่อมต่อของหูหนวกกับการกลายพันธุ์ของยีนบางอย่างได้รับการพิสูจน์แล้ว ถ้ามีการกลายพันธุ์ดังกล่าวปัญหาก็จะยุ่งยากมากขึ้น แต่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเลือกวิธีการทำงานร่วมกับผู้ป่วย

วิธีการวินิจฉัยอะไรบ้างที่ใช้ในการใช้ครูสอนท่วงทำนอง

นอกเหนือจากการวิเคราะห์และวิธีการวิจัยมาตรฐานแล้วผู้ปกครองยังใช้วิธีการวินิจฉัยที่เฉพาะเจาะจงเป็นจำนวนมาก ดังนั้นนอกเหนือจากการตรวจสอบทางการแพทย์มาตรฐานคณาจารย์สามารถส่งผู้ป่วยไปดำเนินการขั้นตอนการวินิจฉัยดังกล่าวเป็น audiometry

ออดี้เป็นขั้นตอนในการวัดความรุนแรง มีวิธีการและอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการดำเนินการดังกล่าว มีการตรวจสอบความไวต่อคลื่นเสียงที่มีการให้อาหารด้วยความถี่ที่ต่างกัน จนถึงปัจจุบันการศึกษาได้ดำเนินการโดยใช้เครื่องตรวจการได้ยิน (audiometer) และก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการดังกล่าวโดยใช้ส้อมปรับต่างๆ แม้ว่าวันนี้การใช้งัดปรับเป็นไปได้และได้รับอนุญาต

ผลของการศึกษาดังกล่าวคือภาพ audiogram ด้วยการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับพลวัตของโฉมภาพเหล่านี้แพทย์สามารถวิเคราะห์การสูญเสียการได้ยินแบบเรียบง่ายไม่เพียง แต่จะพัฒนากระบวนการนี้ได้ทันเวลา

ออโตเมตรีให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนำกระดูกและอากาศนั่นคือจะช่วยให้คุณสามารถประเมินว่าหูชั้นในทำงานอย่างไรและสายหูทั้งหมด

การวัดด้วยออโตเมตริกทำได้โดยใช้ทั้งโทนเสียงและการพูด และถ้าคนแรกที่จะช่วยให้การประเมินความไวเสียงในช่วงความถี่ทั่วไป (125 Hz - 8000 Hz) ที่สองแสดงให้เห็นความสามารถในการรับรู้การพูดของมนุษย์อยู่ในระดับเสียงที่แตกต่างกัน

ผู้ปกครองทำอะไร?

นักบำบัดโรคในการปฏิบัติของเขาเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการสื่อสารและการพูดในคนหูหนวกหรือหูหนวกและปรับให้เหมาะสมกับเครื่องช่วยฟังหลายประเภท

แพทย์ surdopedagog บนพื้นฐานของการศึกษาลักษณะทางสรีรวิทยาบางส่วนหรืออื่น ๆ ของคนหูหนวกหรือหูหนวกสมบูรณ์พัฒนาวิธีการดังกล่าวในการแก้ไขปัญหาวิธีการของการพัฒนาและการศึกษาที่เด็กสามารถได้รับการฝึกฝนได้อย่างอิสระ ไม่ล้าหลังเพื่อนในกระบวนการการศึกษาและทรงกลมทางสังคม

นอกจากนี้คณะยังดำเนินการเรียนการสอนทั่วไปในวิชาที่เรียนในโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและหูหนวกโดยใช้วิธีการพิเศษในการรายงานข้อมูลการอธิบายแนวคิด

แต่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการให้ความรู้แก่เด็กที่มีความสามารถในการได้ยินที่ จำกัด ในการพูดโดยปากซึ่งไม่เพียง แต่ช่วยปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ดีขึ้น แต่ยังส่งผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาและจิตวิทยาโดยรวม นี่เป็นงานที่ค่อนข้างยากเพราะในกรณีนี้เด็กไม่ได้ยินเสียงและไม่ได้ยินเสียงคนอื่นเพราะฉะนั้นเขาจึงไม่เข้าใจความหมายของการกระทำเมื่อเรียนรู้ที่จะพูด

คุณต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่งานที่เป็นทางการ ในความเป็นจริงนี้เป็นงานเดียวกันของครูซึ่งต้องมีความเข้าใจการมีส่วนร่วมเห็นอกเห็นใจความสามารถในการกระตุ้นและส่งเสริมให้หอผู้ป่วยของพวกเขา แต่ความแตกต่างหลักคือ surdopedagog ทำงานเป็นคนหูหนวกหรือคนหูหนวกเกือบ ความสำคัญอย่างยิ่งคือคนที่เคยได้ยินมา เนื่องจากบุคคลที่เคยได้ยินมาก่อนซึ่งด้วยเหตุผลบางอย่างหรือบางส่วนได้สูญเสียความสามารถบางอย่างหรือทั้งหมดนี้มีความคิดเกี่ยวกับเสียงซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาทั่วไปของเขาในการก่อตัวของการคิดเชิงนามธรรม หากมีคนไม่ได้ยินตั้งแต่แรกเกิดคุณต้องใช้วิธีการที่แตกต่างกันเล็กน้อย สำหรับงานดังกล่าวคุณไม่จำเป็นต้องเป็นมืออาชีพที่ดี แต่ยังสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้อีกด้วย กับคนที่คุณทำงานศึกษาพวกเขา สำหรับ surdopedagogists บางนี้เป็นวิธีที่จะตลอดชีวิต ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักสืบนิยมสอนภาษาของท่าทาง ในขณะเดียวกันพยายามที่จะไม่เพียง แต่สอนให้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังสร้างการสื่อสารด้วยอารมณ์แบบสด นอกจากนี้ surdopedagogist สามารถฝึกคนหูหนวกหรือคนหูตึงของการพูดขั้นพื้นฐานที่นี่ทักษะการลอการิทึมและทักษะของ defectologist มีความจำเป็นอยู่แล้ว และแน่นอนว่า surdopedagogue เป็นสิ่งแรกและสำคัญที่สุดในการเป็นนักการศึกษาดังนั้นจำนวนการกระทำของเขารวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ครูมักเผชิญโดยทั่วไป นี่คือจิตวิทยาในการสื่อสารความสามารถในการดึงดูดความสนใจและความสามารถในการมองเห็นบุคลิกภาพที่เป็นอิสระของนักเรียนแต่ละคน

โรคประจำตัวแบบไหน

ความช่วยเหลือของนักบำบัดโรคสามารถเป็นที่ต้องการสำหรับโรคต่างๆของหูชั้นกลางและด้านในสมองและแม้แต่ฟันหรือลิ้น

ผู้ให้การศึกษาด้านศัลยแพทย์ทำการวินิจฉัยและแก้ไขอาการเช่นโรคหูหนวกหูหนวกและหูหนวก

นอกจากนี้เขาสามารถทำงานร่วมกับผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากการสูญเสียการได้ยินหูชั้นกลางอักเสบหรือ otosclerosis

เหตุผลอื่น ๆ ในการติดต่อผู้ที่มีความผิดปกติอาจเป็นโรคตาแหวว, โรคประสาทอักเสบของเส้นประสาทหู, โรค Meniere's, โรคสั่น

หูหนวก - สูญเสียที่สมบูรณ์หรือเกือบเสร็จสมบูรณ์ของความสามารถในการรับรู้และเข้าใจเสียงจากภายนอกและการสูญเสียการได้ยิน - การลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่สูญเสียที่สมบูรณ์ของความสามารถในการได้ยินเสียงส่วนใหญ่มักจะเกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน, การอักเสบของหูชั้นกลางและความหลากหลายของกระบวนการติดเชื้ออื่น ๆ และภาวะแทรกซ้อนของพวกเขาที่อยู่ใกล้กับ หู (หูชั้นกลางอักเสบไข้หวัดใหญ่) นอกจากนี้เสียงดัง, เสียงดัง, การสั่นสะเทือนหรือการบาดเจ็บทางกลอาจเป็นสาเหตุของการสูญเสียการได้ยินหรือการสูญเสีย

กรณีที่ซับซ้อนมากขึ้นคือคนหูหนวก - ใบ้ นี่คือความสามารถไม่เพียง แต่จะได้ยิน แต่พูด ใบ้หูหนวกอาจเป็นเพราะเด็กไม่ได้ยินเสียงพูดและอาจเกิดจากการละเมิดอุปกรณ์เสียง ระบุสาเหตุของปัญหาผู้ปกครองพบวิธีการทำงานร่วมกับนักเรียนแต่ละคน

กรณีที่ยากที่สุดสำหรับการแก้ไขคือหูหนวกและตาบอด เด็กหูหนวกสอนคำพูดผ่านทางสายตา ถ้าเด็กได้รับ แต่เพียงคนหูหนวก แต่ยังเป็นคนตาบอดก็ไม่สามารถที่จะสอนสุนทรพจน์ของเขาได้เลย แต่อย่างไรก็ตามบุคคลดังกล่าวต้องการการฝึกอบรมพิเศษเพื่อรับทักษะพื้นฐานในการสื่อสารและการบริการตนเอง

โรคMénièreคือการสะสมของของเหลวในหูชั้นใน ซึ่งจะทำให้ความดันเซลล์เหล่านั้นที่มีความรับผิดชอบในการวางแนวเชิงพื้นที่ของร่างกายและความสมดุล โรคนี้อาจเกิดจากเชื้อที่ติดเชื้อและกระบวนการอักเสบอื่น ๆ ในหูชั้นในการบาดเจ็บหรือการหยุดชะงักของหลอดเลือด

เคล็ดลับสำหรับคณาจารย์

หากความช่วยเหลือของผู้ปกครองเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดแล้วเด็ก ๆ จะได้รับการวินิจฉัยว่าสูญเสียการได้ยินหรืออาการหูหนวก มันเป็นเรื่องยากสำหรับพ่อแม่และคนที่คุณรักของผู้ป่วยรายเล็ก แต่เราต้องเข้าใจว่าแม้จะมีความยากลำบากทุกคนที่มีปัญหาคล้าย ๆ กันสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่ปฏิเสธความสุขของมนุษย์ในชีวิตที่เทียบเท่ากับการได้ยินปกติ แต่ต้องใช้ความช่วยเหลือจากผู้ปกครองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำงานที่เข้มข้นและขยันหมั่นเพียรของผู้ปกครองและสมาชิกในครอบครัวด้วย และประการแรกเราควรปฏิบัติตามกฎง่ายๆและในเวลาเดียวกันที่สำคัญมาก:

• การยอมรับ

พ่อแม่หลายคนกังวลเกี่ยวกับเด็กของพวกเขาที่มีปัญหาการได้ยินจะปรับตัวในสังคมพยายามที่จะปฏิบัติต่อเขาที่จะได้ยินใส่ซับซ้อนเกินไปสำหรับปัญหาเด็กสร้างบทสนทนากับพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ยินพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องยอมรับความจริงที่ว่าเด็กยากที่จะได้ยินหรือไม่ได้ยินและปฏิบัติตามข้อนี้

• INDEPENDENCE

Hyperopeak ผู้ปกครองยังจำกัดความสามารถของเด็กที่มีการรับฟังอย่าง จำกัด ในการปรับตัวในสังคม เขาควรเรียนรู้สิ่งต่างๆมากกว่าเพื่อนที่รู้จักกันดีดังนั้นหน้าที่ของพ่อแม่ไม่ใช่เพื่อปกป้องเด็กจากโลกภายนอก แต่เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและปลอดภัยที่สุดสำหรับความรู้ของเขา

• การสื่อสาร

เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ที่มีข้อ จำกัด ในการได้ยินมีปัญหาในการพูดเพราะการสื่อสารสำหรับพวกเขาเป็นเรื่องยากจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะปลูกฝังเด็กที่มีปัญหาการได้ยินไม่เพียง แต่ต้องการ แต่ความปรารถนาและนิสัยในการติดต่อสื่อสาร ในการทำเช่นนี้คุณจะต้องแสดงตัวอย่างของการสื่อสารกับเขา - ใช้ท่าทางการแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง มันเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อแสดงให้เด็กเห็นว่าการสื่อสารเป็นเรื่องที่ดีเพื่อจุดประกายความปรารถนาให้เขาได้เรียนรู้อาชีพที่น่าสนใจนี้

แต่ในกรณีใดควรจำไว้ว่าถ้าคุณมีปัญหาในการได้ยินคุณควรปรึกษา surdopedagogist ทันที และดีกว่าเป็นสัญญาณเตือนที่ผิดพลาด