การเคลื่อนไหวของดวงตา

ตำแหน่งปกติของลูกตาเป็นแบบคู่ขนานของแกนภาพเมื่อแก้ไขวัตถุที่อยู่ไกลหรือข้ามไปขณะที่กำหนดวัตถุใกล้เคียง

1. ตาเหล่เป็นตำแหน่งที่ผิดปกติของลูกตา
2. Orthophoria - ตำแหน่งที่เหมาะสำหรับดวงตา (โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม) รวมทั้งในกรณีที่ไม่มีแรงกระตุ้นในการสะท้อนแสงแบบฟิวชันเป็นของหายาก (คนส่วนใหญ่มี heterophory เล็ก)
3. Heterophoria (foria) - แนวโน้มของดวงตาที่เบี่ยงเบน (latent strabismus) จำเป็นต้องใช้กำลังเพิ่มเติมเพื่อรักษาตำแหน่งที่ถูกต้อง
4. Heterotrophy (trophia) - ตำแหน่งผิดของลูกตา Foria สามารถกลายเป็นเขตร้อนถ้า:
   • ความแข็งแรงไม่เพียงพอของกล้ามเนื้อเพื่อรักษาตำแหน่งที่ถูกต้องของดวงตา
   • แรงกระตุ้นในการสะท้อนแสงแบบฟิวชั่นจะอ่อนลง (การทำให้ภาพเบลอของตาข้างเดียว)
   • กลไก neurogenic ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งประสานกับกล้องส่องทางไกล
5. คำนำหน้า "ezo" และ "exo" หมายถึงส่วนเบี่ยงเบนของลูกตาทั้งภายในและภายนอกตามลำดับ Exophoria คือแนวโน้มของดวงตาที่เบี่ยงเบนไปด้านนอก esotropia เป็นอาการตาเหล่บรรจบกัน manifesting ส่วนเบี่ยงเบนอาจเป็นแนวตั้ง (จากนั้นใช้คำนำหน้า "gith" - ลงและ "hyper" - ขึ้น) หรือบิด
6. แกนภาพ (เส้นสายตา) เชื่อมต่อฟิวส์กับจุดตรึงผ่านจุดศูนย์กลางของลูกตา โดยปกติแกนภาพของดวงตาทั้งสองข้างตัดกันที่จุดตรึง Fovea ค่อนข้างชั่วคราวมากกว่าเสาหลัง (ศูนย์กลางทางเรขาคณิต); แกนจักษุผ่านจมูกไปที่กึ่งกลางของกระจกตา
7. แกนกายวิภาคคือเส้นที่ผ่านเสาด้านหลังและศูนย์กลางของกระจกตา
8. มุมของ kappa คือมุมระหว่างแกนภาพและแกนกายวิภาคประมาณ 5 อันมุมบวกของ kappa เกิดขึ้นเมื่อ fovea อยู่ห่างจากขั้วหลังมากขึ้นและมุมลบเมื่อมีตำแหน่งจมูกมากขึ้น มุมที่ผิดปกติของคัปปาอาจทำให้ตาเหล่ปลอม (ดูด้านล่าง)

[1], [2], [3],

อุปนัย

ตาเคลื่อนไหวรอบดวงตา Fick รวมถึงการลักพาตัวการลักพาตัวการยกระดับภาวะซึมเศร้า intorsia และการกดทับ พวกเขาจะได้รับการประเมินด้วยการบดเคี้ยวแบบ monocular เมื่อผู้ป่วยเดินตามวัตถุในแต่ละตำแหน่งของสายตา

[4]

รุ่น

รุ่นเป็นกล้องส่องทางไกลพร้อมกัน conjugate (unidirectional) การเคลื่อนไหวของดวงตา

• เครื่องถ่วงผ้าด้านซ้ายและตาซ้าย (จ้องไปทางขวามองไปทางซ้าย) ยก (จ้องมอง) และลด (จ้องมองลง) การกระทำทั้งสี่นี้จะแปลลูกตาลงในตำแหน่งรองของตาโดยการหมุนรอบแกนแนวนอน (X) หรือแนวตั้ง (Z) Fick
• Dextrolevation และ dextrodepression (จ้องไปทางขวาจ้องไปทางขวา) ซ้าย levation และ levodepressia (จ้องขึ้นไปทางซ้ายและลงไปทางซ้าย) ตำแหน่งสี่มุมเฉียงนี้เป็นตำแหน่งตติยภูมิของดวงตาซึ่งเป็นลูกตาที่แปลโดยการหมุนรอบแกนแนวนอนและแนวตั้ง
• Dextrocyclosis และ levocyclosis (การเคลื่อนไหวของลำตัวบนกิ่งทั้งสองข้างไปทางขวาบิดไปทางซ้าย)

Vergence

เหล่านี้คือกล้องส่องทางไกลพร้อม ๆ กันทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของดวงตาที่สบประมาท (oppositely directed) การลู่เข้าเป็นตัวจับคู่พร้อม ๆ กัน (หมุนไปด้านใน) divergence - หันออกไปนอกตำแหน่งของการลู่เข้า Convergence สามารถสะท้อนโดยพลการซึ่งประกอบด้วย 4 ส่วน

1. Tonic ลู่เข้ากับเสียงของ innervation บังคับของกล้ามเนื้อ rectus ภายในเมื่อผู้ป่วยอยู่ในสถานะที่ตื่นตัว
2. การลู่เข้าใกล้จะเกิดจากการรับรู้ถึงความใกล้ชิดของวัตถุ
3. การสังเคราะห์ฟิวชั่นคือการสะท้อนแสงสะท้อนที่สนับสนุนการมองเห็นแบบสองทิศทางเดียวและช่วยให้การฉายภาพเดียวกันไปยังพื้นที่ที่สอดคล้องกันของเรตินาของตาแต่ละดวง การสะท้อนเริ่มต้นด้วยความไม่เท่ากันของภาพโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงการหักเหใด ๆ เกิดขึ้นในกรณีนี้
4. การบรรจบกันที่เหมาะสมเป็นสาเหตุมาจากที่พักอาศัยและเป็นส่วนหนึ่งของการสังเคราะห์ synkinetic ที่พักอาศัยของแต่ละห้องมีคุณสมบัติในการบรรจบกันอย่างเหมาะสมและมีที่พักอาศัย (LC / L) ดัชนีคืออัตราส่วนของจำนวนไดออพติสปริซึม (D) กับตัวทำละลาย diopters ที่พัก (ลิตร) ในบรรทัดฐาน 3-5 D (สำหรับ 1 dpt ของที่พัก 3-5 D ของการบรรจบกันเป็นสิ่งที่จำเป็น) ดัชนีพยาธิวิทยา AK / L มีความสำคัญในกรณีของตาเหล่

ดูตำแหน่ง

1. หกตำแหน่งพื้นฐานของดวงตาคือตำแหน่งของไข่แดงขึ้นอยู่กับการทำงานของกล้ามเนื้อหนึ่งตัว
   • Dextrowerzia (กล้ามเนื้อด้านนอกและด้านซ้ายขวา)
   • เหลือ (กล้ามเนื้อด้านซ้ายและขวา)
   • Dextroelivation (ด้านขวาล่างตรงและซ้ายล่างกล้ามเนื้อขวาง)
   • เลี้ยวซ้าย (ขวาล่างและขวาล่างขวางกล้ามเนื้อ)
   • Dextrodepression (ขวาล่างและกล้ามเนื้อขวางด้านบนซ้าย)
   • Levedopressia (ซ้ายล่างตรงและขวาบนกล้ามเนื้อขวาง)
2. ตำแหน่งการวินิจฉัยของตาเก้าตำแหน่งซึ่งมีการประเมินความเบี่ยงเบนของลูกตา: ตำแหน่งสำคัญ 6 ตำแหน่งตำแหน่งหลักยกและลด (รูปที่)

กฎของการเคลื่อนไหวดวงตา

1. Agonist และ antagonist - คู่ของกล้ามเนื้อของตาข้างหนึ่งขับรถไปในทิศทางตรงกันข้าม ตัวเอกเป็นกล้ามเนื้อหลักที่ทำให้ตาเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งฝ่ายตรงข้ามทำหน้าที่ในทิศทางตรงกันข้าม ยกตัวอย่างเช่นกล้ามเนื้อ rectus ด้านนอกขวาเป็นตัวคูณของกล้ามเนื้อ rectus ภายในที่เหมาะสม
2. Synergists เป็นกล้ามเนื้อของดวงตาเดียวกันทำหน้าที่ในทิศทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นกล้ามเนื้อส่วนบนและกล้ามเนื้อด้านล่างของกล้ามเนื้อตาข้างเดียวคือ rectuss synergists
3. กล้ามเนื้อคู่เป็นคู่ของกล้ามเนื้อของดวงตาที่แตกต่างกันที่ผลิตการเคลื่อนไหวผันผวน ตัวอย่างเช่นกล้ามเนื้อจับคู่ของด้านบนซ้ายเฉียง - เส้นล่างของตาขวา
4. Sherrington พระราชบัญญัติปกคลุมด้วยเส้นซึ่งกันและกัน (เบรก) อ่าน: เพิ่มขึ้นปกคลุมด้วยเส้นของกล้ามเนื้อ extraocular (เช่นกล้ามเนื้อ rectus ภายในของตาขวา) จะมาพร้อมกับการลดลงซึ่งกันและกันในศัตรูปกคลุมด้วยเส้นนี้ (กล้ามเนื้อ rectus ข้างของตาซ้าย) ซึ่งหมายความว่าการหดตัวของกล้ามเนื้อ rectus ภายในจะมาพร้อมกับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อภายนอกและในทางกลับกัน กฎหมายของ Sherrington ใช้กับ verziyam และ verzhentsy
5. กฎของ Hering เกี่ยวกับความเป็นธรรมที่เท่าเทียมกันระบุว่าเมื่อการเคลื่อนไหวของดวงตาผันผวนกล้ามเนื้อคู่จะได้รับแรงกระตุ้นอย่างเท่าเทียมกัน ในกรณีที่เป็นโรคอัมพฤกษ์อัมพาตให้นิ่มนวลสมมาตรกับกล้ามเนื้อทั้งสองข้างจะถูกกำหนดโดยการยึดตาดังนั้นมุมของตาเหล่จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการยึดสายตา ยกตัวอย่างเช่นเมื่อกล้ามเนื้อด้านนอกของดวงตาข้างซ้ายเป็นอาการผิดปกติตาก็คือตาขวา ความเบี่ยงเบนของตาซ้ายไปด้านในเกิดจากเสียงของกล้ามเนื้อด้านในของ rectus ในกรณีที่ไม่มีตัวทำหน้าที่เป็นปรปักษ์ - กล้ามเนื้อด้านนอก rectip ด้านนอกของตาซ้าย มุมของการโก่งตัวของลูกตานี้เรียกว่ามุมหลัก เพื่อรักษาการตรึงด้วยตาฟางโดยไม่จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามตามกฎหมาย Hering ชีพจรของแรงเดียวกันถูกนำไปที่กล้ามเนื้อด้านใน rectus ของตาขวา (กล้ามเนื้อจับคู่) ซึ่งจะนำไปสู่ hyperfunction และ adduction มากเกินไปของตาขวา มุมของการเบี่ยงเบนระหว่างสองดวงนี้เรียกว่ามุมรอง ด้วยมุมมองภาพรองมุมรองจะเกินมุมหลัก

กายวิภาคของกล้ามเนื้อของดวงตา

ผนังด้านนอกและด้านในของวงโคจรอยู่ที่มุมถึง 45 เมื่อเทียบกับแต่ละอื่น ๆ ดังนั้นมุมระหว่างแกนของผนังโคจรโคจรและด้านข้างและตรงกลางเป็น 11.4 แต่สำหรับความเรียบง่ายมีค่าเท่ากับ 23 เมื่อตรึงสายตาโดยตรงไปยังจุดในระดับขอบฟ้าและหัวยก (ตำแหน่งจ้องมองหลัก) ในรูปแบบที่แกนภาพกับแกนของมุมโคจรของ 23 การกระทำของกล้ามเนื้อบริเวณข้อเท้าขึ้นอยู่กับตำแหน่งของลูกตาในช่วงที่กล้ามเนื้อหดตัว

1. การกระทำหลักของกล้ามเนื้อคือการกระทำหลักในตำแหน่งหลักของดวงตา
2. การกระทำรองเป็นผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งของลูกตา
3. ระนาบรายการเป็นเครื่องบินโคโรเนียนที่สมมุติผ่านจุดศูนย์กลางของการหมุนลูกตาซึ่งหมุนไปตามแกน Fick ซึ่งตัดกันกับเครื่องบินรายชื่อ
   • หมุนไปทางซ้ายและขวาตามแกน Z แนวตั้ง
   • เลื่อนขึ้นและลงตามแกน X ในแนวนอน
   • การเคลื่อนไหวของแรงบิดเกี่ยวกับแกน Y ซึ่งไหลจากเสาด้านหน้าไปยังเสาด้านหลังเป็นแกนภาพ

กล้ามเนื้อตรงของดวงตาของการกระทำในแนวนอน

ในตำแหน่งหลักของดวงตากล้ามเนื้อตรงแนวนอนจะเคลื่อนที่เฉพาะในระนาบแนวนอนเมื่อเทียบกับแกน Z ตามแนวตั้งเท่านั้น ถูก จำกัด ด้วยการกระทำหลักของพวกเขา

1. กล้ามเนื้อ rectus ภายในเริ่มต้นจากวงแหวน Zinn ที่ปลายสุดของวงโคจรและยึดติดกับ sclera nasally ที่ 5.5 mm ด้านหลังของ limbus ฟังก์ชั่นเดียวคือการเหนี่ยวรั้ง
2. กล้ามเนื้อ rectus ภายนอกเริ่มต้นจากวง Zinn และแนบกับผิวหนังชั่วคราวที่ 6.9 มม. จากแขนขา การทำงานเพียงอย่างเดียวคือการลักพาตัว

กล้ามเนื้อตรงของตาของการดำเนินการในแนวตั้ง

กล้ามเนื้อตรงแนวตั้งผ่านไปตามแกนของวงโคจรและแนบกับลูกตาก่อนหน้าไปยังเส้นศูนย์สูตรซึ่งสร้างมุมฉาก 23 พร้อมแกนภาพ

กล้ามเนื้อส่วนบนของ rectus เริ่มต้นจากด้านบนของวง Zinn และแนบ 7.7 มม. หลังกับส่วนบน

• ฟังก์ชั่นหลักคือการยกลูกตา การกระทำที่สอง - adduction และ intorsia
• เมื่อดวงตาถูกเบี่ยงเบนไป 23 แกนภาพและแกนของวงโคจรตรง ในตำแหน่งนี้กล้ามเนื้อไม่มีการผ่าตัดรองและทำงานเป็นยกซึ่งจะทำให้ตำแหน่งของตะกั่วที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจสอบการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนบนของ rectus
• ถ้าลูกตาสามารถนำมาถึง 67 แล้วมุมระหว่างแกนภาพและแกนของวงโคจรจะเป็น 90 และกล้ามเนื้อบน rectus จะทำหน้าที่เฉพาะเป็น intortor

กล้ามเนื้อส่วนล่างของ rectus เริ่มจากส่วนล่างของวง Zinn และแนบไปกับแขนขาล่าง 6.5 มม.

• ฟังก์ชั่นหลัก - ลดตาแดง รอง - การเหนี่ยวนำและการอัดขึ้นรูป
• ด้วยลูกตาในวันที่ 23 กล้ามเนื้อ rectus ล่างทำหน้าที่เป็นกล้ามเนื้อลดลงเท่านั้น เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อส่วนบนของ rectus นี่เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจสอบการทำงานของกล้ามเนื้อ rectus ล่าง
• ถ้าลูกตาสามารถนำไปที่ 67 กล้ามเนื้อ rectus ล่างจะทำหน้าที่เป็น extenter เท่านั้น

Spiral Tillauch

เส้นจินตนาการที่วิ่งไปตามจุดที่แนบมาของกล้ามเนื้อตรงเป็นจุดอ้างอิงทางกายวิภาคที่สำคัญสำหรับการผ่าตัดตาเหล่ จุดที่แนบมาจะถูกลบออกจากแขนขาเป็นเกลียว แขนงที่ใกล้เคียงที่สุดคือตำแหน่งของกล้ามเนื้อ rectus ภายใน (5.5 มม.) ตามด้วยเส้นล่าง (6.5 มม.) เส้นนอกตรง (6.9 มม.) และกล้ามเนื้อ rectus ที่เหนือกว่า (7.7 มม.)

กล้ามเนื้อเฉียงของดวงตา

กล้ามเนื้อเฉียงแนบติดกับเส้นศูนย์สูตร มุมระหว่างกล้ามเนื้อและแกนภาพคือ 51

กล้ามเนื้อเฉียงบนเริ่มจากขอบบนสุดของช่องมองภาพ มันถูกโยนเข้าไปในบล็อกในมุมระหว่างผนังด้านบนและด้านในของวงโคจรจากนั้นก็ผ่านด้านหลังและด้านข้างติดอยู่กับด้านบนของขดลวดลูกตาด้านบน

• ฟังก์ชันหลักคือการผกผัน รอง - การทรุดตัวและการลักพาตัว
• เมื่อลูกตาอยู่ในสถานะของการลดลง 51 แกนภาพสอดคล้องกับแนวการทำงานของกล้ามเนื้อ; กล้ามเนื้อทำหน้าที่เป็นเพียงการลดซึ่งจะทำให้ตำแหน่งนี้ที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจสอบการทำงานของกล้ามเนื้อขวางบน
• เมื่อลูกตาถูกเบี่ยงเบนไปที่ 39 แกนภาพและเอียงด้านบนจะสร้างมุม 90 องศาในตำแหน่งนี้กล้ามเนื้อเฉียงส่วนบนจะมีเฉพาะฟังก์ชันของอินเทอร์โตร

กล้ามเนื้อเฉียงต่ำเริ่มต้นที่หลุมขนาดเล็กสำหรับด้านข้างวงโคจรเพื่อถุงน้ำตาผ่านปลายทางและด้านข้างและอยู่ติดกับด้านขมับด้อยกว่าด้านหลังของลูกตาใกล้ด่าง

• ฟังก์ชันหลัก - รีด, รอง - ยกและลักพาตัว
• เมื่อลูกตาอยู่ในสถานะการเหนี่ยวนำ 51 กล้ามเนื้อขวางล่างทำหน้าที่เหมือนยกเท่านั้น
• เมื่อตาปรากฏที่ 39 'การกระทำหลักคือการอัดขึ้นรูป

Innervation ของกล้ามเนื้อของตา

1. กล้ามเนื้อ rectus ภายนอกมี innervated โดย 6 ประสาทหู (เส้นประสาท - distracting กล้ามเนื้อลักพา)
2. กล้ามเนื้อเฉียงส่วนบนต่ำกว่าคู่ของเส้นประสาทสมอง (เส้นประสาท - กล้ามเนื้อถูกโยนข้ามกั้น)
3. กล้ามเนื้ออื่น ๆ และ levator ของเปลือกตาบนจะ innervated โดยคู่ที่สามของเส้นประสาทสมอง (oculomotor)

[5], [6]