ผู้ที่มีฐานะร่ำรวยและมีรายได้น้อยมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลายประเภท

ในการวิจัยล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้สรุปว่าระดับรายได้ของบุคคลจะกำหนดประเภทของโรคมะเร็งที่สามารถเกิดขึ้นได้

นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตเห็นว่ามะเร็งบางชนิดมักพบในกลุ่มชนชั้นทางสังคมบางกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าคนร่ำรวยมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง มะเร็งอัณฑะ มะเร็งต่อมไทรอยด์ ในขณะที่คนที่มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งตับ ปากมดลูก กล่องเสียง และองคชาตมากกว่า

ในขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์มองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่แม้ว่าเนื้องอกมะเร็งจะพบได้น้อยกว่าในกลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย แต่กลับมีอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งประเภทต่างๆ สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มประชากรประเภทนี้

ระหว่างการวิจัย ได้มีการศึกษาพื้นที่ต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาโดยจำแนกตามมาตรฐานการครองชีพ และตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุไว้ ได้มีการศึกษาข้อมูลจากประชากรอเมริกันมากกว่า 2 ใน 5 จากผลการศึกษาพบว่าในช่วง 4 ปี (ตั้งแต่ปี 2005 ถึง 2009) มีการบันทึกกรณีการเกิดมะเร็งประมาณ 3 ล้านราย นักวิทยาศาสตร์ได้กำหนดว่ามะเร็งบางประเภท เช่น มะเร็งองคชาต มะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของคาโปซี มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น พบได้บ่อยกว่าในประชากรในพื้นที่ยากจน ในขณะที่มะเร็งอัณฑะและมะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งผิวหนัง พบได้บ่อยกว่าในประชากรที่มีฐานะร่ำรวย

ดังที่ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา ฟรานซิส บอสโก กล่าวไว้ การศึกษานี้จะช่วยให้ประชาชนที่มีรายได้ปานกลางและน้อยสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ดีขึ้นและเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ

จากการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าผู้หญิงที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา มากกว่า ในสหรัฐอเมริกา การเสียชีวิตจากมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในกลุ่มคนผิวขาว ผู้เชี่ยวชาญพบว่าผู้หญิงที่อายุน้อยและร่ำรวยมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมามากกว่า ในการศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญพบว่าเนื้องอกที่เต้านมและผิวหนังชนิดร้ายแรงพบได้บ่อยกว่าในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางมากกว่าในกลุ่มผู้มีรายได้สูง

นักวิทยาศาสตร์ยังเตือนด้วยว่าผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับอาชีพการงานและเลื่อนการมีลูกออกไปอย่างไม่มีกำหนดจะเผชิญกับความเสี่ยงที่มากขึ้น ซึ่งเป็นเพราะพวกเธออาจต้องเผชิญกับแสงแดดบ่อยขึ้นและเป็นเวลานานขึ้น

นอกจากนี้ ยังควรสังเกตว่าการศึกษาดังกล่าวดำเนินการในสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่มีระบบการดูแลสุขภาพฟรี ดังนั้น การรักษามะเร็งจึงมีราคาแพงเกินไปสำหรับกลุ่มที่มีรายได้น้อย และผู้ถือประกันสุขภาพมักจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับการรักษาในระยะยาวด้วยตนเอง สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ การเสียชีวิตในกลุ่มประชากรที่มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยในอเมริกา

นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาของเนื้องอกมะเร็งประการแรก ควรสังเกตไลฟ์สไตล์ของผู้คน คนร่ำรวยสามารถไปพักผ่อนที่รีสอร์ทได้บ่อยขึ้น (และจึงใช้เวลาอยู่กลางแดดมากขึ้น) ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาของมะเร็งผิวหนัง ในกลุ่มประชากรที่มีรายได้น้อย มะเร็งตับและกล่องเสียงพบได้บ่อยกว่า ซึ่งเกิดจากการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป