การสูญเสียความสามารถในการรับกลิ่นสามารถทำนายภาวะหัวใจล้มเหลวได้หรือไม่?

การสูญเสียความสามารถในการรับกลิ่นตามปกติ ซึ่งเป็นความบกพร่องทางประสาทสัมผัสที่มักเกิดขึ้นตามวัย อาจช่วยคาดการณ์หรือแม้แต่ก่อให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ จากการศึกษาวิจัยใหม่ล่าสุด

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารของ American Heart Associationได้เสริมหลักฐานที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของประสาทรับกลิ่นที่ไม่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ

“เราทราบว่ามันเป็นเครื่องหมายของโรคระบบประสาทเสื่อม เช่นโรคพาร์กินสันและภาวะสมองเสื่อม ” ดร. Honglei Chen หัวหน้าคณะผู้จัดทำผลการศึกษาและศาสตราจารย์ประจำภาควิชาระบาดวิทยาและสถิติชีวภาพที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตท ในเมืองอีสต์แลนซิง กล่าว

“เราพบว่าประสาทรับกลิ่นอาจมีความสำคัญต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ และสิ่งนี้กระตุ้นให้เราสำรวจว่าประสาทรับกลิ่นอาจเชื่อมโยงกับโรคอื่นๆ นอกเหนือจากโรคเสื่อมของระบบประสาทได้อย่างไร”

การสูญเสียความสามารถในการรับกลิ่นเมื่ออายุมากขึ้นถือเป็นเรื่องปกติการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้คนเกือบ 1 ใน 4 คนมีความสามารถในการรับกลิ่นลดลงเมื่ออายุใกล้ 50 ปี โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้คนจะประสบปัญหานี้เมื่ออายุเกิน 80 ปี การสูญเสียความสามารถในการรับกลิ่นตามปกติอาจส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง รวมถึงความเพลิดเพลินในการรับประทานอาหารลดลง และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัญหาต่างๆ เช่น ความสามารถในการตรวจจับอาหารที่เน่าเสียหรือก๊าซรั่วลดลง

การสูญเสียกลิ่นอาจมีผลกระทบอื่นๆ ด้วยเช่นกัน การวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่ากลิ่นที่ไม่ดีอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการสูญเสียความสามารถในการรับรู้ โดยเชื่อมโยงความผิดปกติของการรับกลิ่นกับประสิทธิภาพการรับรู้ ความจำ และภาษาโดยรวมที่แย่ลง

นอกจากนี้ ยังพบว่าความผิดปกติของการรับกลิ่นเป็นปัจจัยทำนายที่สำคัญสำหรับอัตราการเสียชีวิตในผู้สูงอายุใน 10 ปี และอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้การผลัดเซลล์ที่ช้าลงหรือการสัมผัสกับปัจจัยแวดล้อมที่เป็นพิษเป็นเวลาหลายปี หรืออาจเป็นทั้งสองอย่างก็ได้

เนื่องจากภาวะสมองเสื่อมและโรคพาร์กินสันเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนเกินที่เกิดจากประสาทรับกลิ่นที่ไม่ดีเพียง 22% นักวิจัยในการศึกษาวิจัยครั้งใหม่จึงตั้งคำถามว่าความผิดปกติของการรับกลิ่นอาจเป็นเครื่องหมายของปัญหาสุขภาพที่กว้างขึ้นได้หรือไม่

เฉินและเพื่อนร่วมงานของเขาวิเคราะห์ข้อมูลผู้คน 2,537 คนจากการศึกษา ABC ด้านสุขภาพของสถาบันแห่งชาติเพื่อการชราภาพ ซึ่งตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างภาวะที่เกี่ยวข้องกับการชราภาพ ปัจจัยทางสังคมและพฤติกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางการทำงานของผู้สูงอายุ เมื่อผู้เข้าร่วมเข้าร่วมการศึกษาในปี 1997 และ 1998 พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานได้ดี อายุระหว่าง 70 ถึง 79 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่พิตต์สเบิร์กและเมมฟิส รัฐเทนเนสซี

ผู้เข้าร่วมการศึกษาได้รับการติดตามนับตั้งแต่มีการทดสอบประสาทรับกลิ่นในคลินิกเป็นเวลา 3 ปีในปี 1999 หรือ 2000 จนถึง 12 ปี หรือจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์หลอดเลือดหัวใจหรือเสียชีวิต

นักวิจัยค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างกลิ่นที่ไม่ดีกับอาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ การเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่ดีเท่าที่ควร นักวิจัยถือว่าผู้ป่วยมีอาการหัวใจล้มเหลวหากต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลค้างคืนด้วยอาการดังกล่าว

การทดสอบการดมกลิ่นทำได้โดยให้ผู้เข้าร่วมดมกลิ่นและระบุวัตถุ 12 ชิ้นจากรายการคำตอบที่เป็นไปได้ 4 รายการ โดยให้ 1 คะแนนสำหรับคำตอบที่ถูกต้องแต่ละข้อตั้งแต่ 0 ถึง 12 คะแนน ความสามารถในการดมกลิ่นที่ไม่ดีถูกกำหนดให้เป็นคะแนน 8 คะแนนหรือต่ำกว่า ในการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ของผู้เข้าร่วมกลุ่มเดียวกัน นักวิจัยพบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างความสามารถในการดมกลิ่นที่ไม่ดีกับโรคพาร์กินสัน ภาวะสมองเสื่อม อัตราการเสียชีวิต และการต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคปอดบวม

จากการวิเคราะห์ใหม่ พบว่าผู้เข้าร่วมที่มีความสามารถในการรับกลิ่นลดลงมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังสูงขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับผู้เข้าร่วมที่มีความสามารถในการรับกลิ่นที่ดี ไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างความสามารถในการรับกลิ่นกับโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง

เฉินกล่าวว่ายังไม่ชัดเจนว่าประสาทรับกลิ่นที่ไม่ดีมีส่วนทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือเพียงแค่ทำนายภาวะดังกล่าวได้เท่านั้น

“ประสาทรับกลิ่นที่ไม่ดีอาจเกี่ยวข้องกับการแก่ก่อนวัย” เขากล่าว และเสริมว่าพื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

พื้นที่การวิจัยนี้อยู่ในระยะเริ่มต้นและยังคงตั้งคำถามที่น่าสนใจมากมาย ดร. Khadija Brisette ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายหัวใจในทีมภาวะหัวใจล้มเหลวขั้นสูง การรองรับการไหลเวียนโลหิตด้วยเครื่องจักร และการปลูกถ่ายหัวใจที่ Indiana University Health ในเมืองอินเดียแนโพลิส กล่าว

“ฉันสงสัยว่าการสูญเสียกลิ่นเป็นไบโอมาร์กเกอร์ของกระบวนการทางสรีรวิทยาอื่นหรือไม่” บรีเซตต์ ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษากล่าว “ไม่ชัดเจนว่าการสูญเสียกลิ่นจะนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้อย่างไร”

Brisette ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยอินเดียนา กล่าวว่า จากสาเหตุต่างๆ มากมายของภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหัวใจถือเป็นสาเหตุหลัก "การสูญเสียการรับกลิ่นไม่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดหัวใจในการศึกษานี้ ซึ่งทำให้ฉันยิ่งสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับความเชื่อมโยงนี้"

นอกจากนี้ บรีเซตต์ยังสงสัยว่าจะมีอะไรให้เรียนรู้จากผู้คนที่สูญเสียความสามารถในการรับกลิ่นเนื่องจากโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งเป็นอาการที่อาจคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือมากกว่านั้นในบางคน การศึกษานี้วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมก่อนการระบาดของโควิด-19

“การศึกษานี้ไม่ได้แสดงให้เห็นสาเหตุและผลกระทบ” เธอกล่าว “มันทำให้เกิดคำถามขึ้น แต่นั่นก็เป็นเรื่องดีเพราะอาจช่วยให้เราค้นพบเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงการดูแล”