แสงสีฟ้าช่วยปรับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ

นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าแสงสีฟ้าสามารถรักษาความดันโลหิตสูงให้คงที่ได้ โดยไม่ต้องรับประทานยาใดๆ ความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงจากการรักษาพิเศษนี้แทบจะเป็นศูนย์

ผู้เชี่ยวชาญจากสหราชอาณาจักรและเยอรมนีได้ร่วมกันทำงานวิจัย ซึ่งระหว่างนั้นพวกเขาได้ค้นพบวิธีการรักษาความดันโลหิตสูงแบบใหม่ที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้ วิธีการนี้สามารถเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมแทนยาหลายๆ ชนิดได้

ความดันโลหิตสูงหรือโรคความดัน โลหิตสูง เป็นปัญหาทางการแพทย์ที่เร่งด่วนที่สุด โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้วทางเศรษฐกิจ ตามสถิติที่จัดทำโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ผลกระทบเชิงลบของความดันโลหิตสูงนำไปสู่การเสียชีวิตของประชากรในประเทศประมาณ 1,000 รายต่อวัน ความดันโลหิตสูงมักกลายเป็น "ผู้ร้าย" ของอาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง ไตวาย สมองเสื่อมในวัยชรา ฯลฯ

ปัจจุบัน ยาหลักที่แพทย์สั่งจ่ายสำหรับความดันโลหิตสูง ได้แก่ ยาขับปัสสาวะ ยาบล็อกช่องแคลเซียม และยายับยั้งเอนไซม์แปลงแองจิโอเทนซิน การใช้ยาหลายชนิดสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนและป้องกันการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้ แต่มีข้อเสียอย่างหนึ่งคือ ยาเหล่านี้ล้วนมีผลข้างเคียงมากมาย นอกจากนี้ จำเป็นต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ถูกบังคับให้ใช้ยาเหล่านี้เกือบตลอดชีวิต

มีทางแก้ปัญหาสำหรับปัญหานี้หรือไม่? นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Heine ของเยอรมนีและมหาวิทยาลัย Surrey ของอังกฤษได้นำเสนอวิธีการใหม่ที่แปลกใหม่ในการรักษาระดับความดันโลหิตให้คงที่ การวิจัยแสดงให้เห็นว่ารังสีดวงอาทิตย์ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ดังนั้นการอ่านค่าความดันโลหิตจึงมักจะคงที่มากขึ้นในช่วงฤดูร้อน และแสงแดดที่มีมากจะส่งผลต่อการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคความดันโลหิตสูง

หลายๆ คนทราบดีว่ารังสีอัลตราไวโอเลตมีผลเสียต่อผิวหนัง ส่งผลให้เซลล์แก่เร็วขึ้น มีการพิสูจน์มานานแล้วว่าแสงแดดโดยตรงสามารถกระตุ้นให้เกิดเนื้องอกได้ โดยเฉพาะมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา

อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่าแสงแดดเป็นแรงผลักดันให้เกิดกระบวนการทางเคมีที่สำคัญ โดยเฉพาะการสังเคราะห์วิตามินดีทางชีวภาพ นอกจากนี้ รังสียังส่งผลต่อการควบคุมความตึงตัวของหลอดเลือดอีกด้วย แน่นอนว่านักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้รังสีที่อาจก่อมะเร็งในการรักษา อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้พิจารณาทางเลือกอื่นอย่างจริงจัง

ไม่นานนักก็พบวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด นั่นคือ แสงสีน้ำเงินที่มองเห็นได้ซึ่งมีความยาวคลื่น 420 ถึง 453 นาโนเมตรสามารถกระตุ้นการสังเคราะห์ไนตริกออกไซด์ทางชีวภาพได้โดยไม่ทำลายโครงสร้างเซลล์ และไม่แสดงคุณสมบัติที่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์หรือก่อมะเร็ง

จากการศึกษาพบว่าการได้รับแสงสีน้ำเงินเพียงครึ่งชั่วโมงสามารถลดความดันซิสโตลิกได้ประมาณ 8 มม.ปรอท นอกจากนี้ การลดความดันนี้ยังเป็นไปอย่างอ่อนโยนและปลอดภัยอีกด้วย

แน่นอนว่าเราไม่ควรยอมแพ้กับยา เพราะเราเพิ่งได้รับผลการทดสอบเบื้องต้นเท่านั้น แต่ยังมีความหวังว่าปัญหาความดันโลหิตสูงจะได้รับการแก้ไขในเร็วๆ นี้ [ 1 ]

รายละเอียดมีอธิบายไว้ในEuropean Journal of Preventive Cardiology