อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งจะลดลง

นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 จำนวนการเสียชีวิตจากเนื้องอกมะเร็งจะลดลงร้อยละ 17

ผู้เชี่ยวชาญได้ข้อสรุปนี้จากข้อเท็จจริงที่ว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกจะค่อยๆ ลดลง และความนิยมในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจะเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์ยังคาดว่าจะมีการพัฒนาวิธีการที่ดีขึ้นในการวินิจฉัยและรักษาโรค โดยเฉพาะมะเร็งชนิดที่พบบ่อยที่สุด

จากข้อมูลขององค์กรด้านสุขภาพต่างๆ ในปี 2010 พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากมะเร็ง 170 รายต่อประชากร 100,000 คน และภายใน 17 ปี ตัวเลขดังกล่าวจะลดลงเหลือ 142 รายต่อประชากร 100,000 คน จำนวนผู้ป่วยมะเร็งรังไข่จะลดลง 42.6% (ตัวเลขปัจจุบันอยู่ที่ 9.1 ผู้หญิงต่อประชากร 100,000 คน ตัวเลขที่คาดการณ์ไว้คือ 5.3 ผู้หญิงต่อประชากร 100,000 คน) อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมจะลดลง 28% และจากมะเร็งลำไส้จะลดลง 23% นักวิทยาศาสตร์คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากจะลดลง 16%

อย่างไรก็ตาม อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งช่องปากอาจเพิ่มขึ้นถึง 22% นักวิทยาศาสตร์ยังพบแนวโน้มว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากมะเร็งตับ จะเพิ่มขึ้น ถึง 39%

ศาสตราจารย์ปีเตอร์ ซาซิเอนี จากมหาวิทยาลัยลอนดอน กล่าวว่า “การวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเมื่อปรับตามอายุและสุขภาพแล้ว จะลดลงอย่างมากในช่วงทศวรรษหน้า และสิ่งที่น่ายินดีที่สุดคืออัตราการเกิดมะเร็งที่พบบ่อยที่สุด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ และมะเร็งปอด จะลดลง”

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าแนวโน้มดังกล่าวจะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากข้อเท็จจริงที่ว่าประชากรส่วนใหญ่ของโลกจะเริ่มคิดเกี่ยวกับอาหารการกินของตนเอง ว่าจะกินอะไรและกินอย่างไร นอกจากนี้ยังมีความหวังสำหรับการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางกายของผู้คนอีก ด้วย

“การคาดการณ์ค่อนข้างเป็นไปในแง่ดี โดยเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าที่สำคัญที่วิทยาศาสตร์ค่อยๆ พัฒนาขึ้นในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง” ฮาร์เปล คูมาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Cancer Research UK กล่าว

“แต่เราเข้าใจว่าเรายังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องทำเพื่อให้ถึงวันที่ไม่มีใครต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเนื่องจากโรคมะเร็ง” เขากล่าวเสริม