ฤดูหนาวเป็นช่วงอันตรายสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ

ผู้ป่วยโรคหัวใจไม่สามารถชดเชยความต้องการออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นของร่างกายเมื่อหายใจเอาอากาศเย็นเข้าไปได้ ซึ่งนั่นหมายถึงการพลั่วหิมะและกิจกรรมอื่นๆ ในอากาศเย็นอาจเป็นอันตรายได้สำหรับบางคน

นี่เป็นความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์จากวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งได้ทำการศึกษาและค้นหาว่าเหตุใดอากาศเย็นมักกระตุ้นให้เกิดอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ

การสูดอากาศเย็นเข้าไประหว่างการออกกำลังกายแบบไอโซเมตริก (เช่น การตักหิมะหรือการเดินโดยมีกระเป๋าเอกสารหรือแล็ปท็อปอยู่ในกระเป๋า) อาจทำให้ออกซิเจนกระจายไปทั่วหัวใจ ได้ไม่เท่ากัน ร่างกายที่แข็งแรงจะแก้ไขปัญหานี้และกระจายการไหลเวียนของเลือดเพื่อให้หัวใจทำงานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ร่างกายไม่สามารถรับมือกับงานนี้ได้ ในอุณหภูมิต่ำ ภาระที่หัวใจต้องรับจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่อัตราการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นสูงสุดจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว

ในการศึกษานี้ นักวิจัยได้ตรวจคนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรงในช่วงวัย 20 ปี และผู้ป่วยที่มีสุขภาพแข็งแรงกลุ่มหนึ่งที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ผู้เข้าร่วมทุกคนได้รับการตรวจการทำงานของปอดและหัวใจ

เพื่อประเมินการทำงานของหัวใจในระหว่างการออกกำลังกาย นักวิจัยได้ขอให้ผู้เข้าร่วมทำท่ากำมือแบบ isometric (แบบคงที่) ซึ่งจะเพิ่มความดันโลหิต ผู้เข้าร่วมจะกำวัตถุและถือไว้เป็นเวลา 2 นาที โดยให้หัวใจรับน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่ามีความไม่ตรงกันระหว่างปริมาณออกซิเจนที่ส่งและความต้องการในห้องล่างซ้าย ซึ่งรับเลือดที่มีออกซิเจน แม้ว่าหัวใจจะยังทำงานปกติก็ตาม

ผลงานนี้ตามคำกล่าวของผู้เขียนแสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตที่มีสุขภาพดีจะกระจายเลือดไปยังเยื่อบุหัวใจ (เยื่อบุชั้นในของโพรงหัวใจ) ได้อย่างเพียงพอในระหว่างการกระตุ้นร่วมกันของการหายใจเอาอากาศเย็นเข้าไปและการออกกำลังกายแบบไอโซเมตริก