ชาวอังกฤษหลายล้านคนติดยาแก้ปวด

ตามข้อมูลของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร ผู้ป่วยมากกว่า 62 ล้านคนได้รับการสั่งจ่ายยาแก้ปวดทุกปี โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาแก้ปวดเพิ่มขึ้น 30%

ตัวเลขเหล่านี้เป็นหลักฐานโดยตรงของการระบาดของการติดยาแก้ปวดที่แท้จริง

เมื่อเทียบกับปี 2553 มีการออกใบสั่งยาเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ในปี 2554 หรือ 62.5 ล้านใบ และเมื่อเทียบกับปี 2549 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 หรือในขณะนั้นมีการออกใบสั่งยาแก้ปวด 48.9 ล้านใบ

ในความเป็นจริง การบริโภคยาเหล่านี้มีสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ เนื่องจากสามารถซื้อยาเช่น ไอบูโพรเฟนและพาราเซตามอล ได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา และในสหราชอาณาจักร ยาเหล่านี้ยังขายในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยซ้ำ จากการศึกษาตลาดล่าสุดของบริษัทวิจัยตลาด SymphonyIRI Group พบว่ายอดขายยาแก้ปวดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์เพิ่มขึ้น 4.1% ต่อปี โดยยาประมาณ 6 พันล้านตัวถูกซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตเพียงแห่งเดียว

แพทย์มีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการบริโภคยาที่มีโคเดอีนซึ่งเป็นยาฝิ่นที่อยู่ในกลุ่มยาเสพติดในปริมาณสูง ยาเหล่านี้ได้แก่ Solpadeine Max, Nurofen Plus, Panadol Ultra และ Sindol ยาเหล่านี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

สำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักรระบุว่าความต้องการยาที่มีส่วนผสมของโคเดอีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 45 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยาแก้ปวดดังกล่าวจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ประมาณ 27 ล้านซอง และแพทย์สั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วยมากกว่า 2.5 ล้านซองต่อปี

เดวิด กรีฟ ผู้ก่อตั้งสายด่วน Over-Count ซึ่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่รู้สึกว่าตนเองต้องพึ่งยา กล่าวว่าประชาชนปฏิบัติต่อยาแก้ปวดเหมือนกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ขายตามร้านค้า ผู้คนไม่คิดว่ายาเป็นยารักษาโรค และไม่เข้าใจถึงผลที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาเอง

David Grieve กล่าวว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้คนเกือบ 32,000 คนแสวงหาความช่วยเหลือจาก Over-Count หลังจากตระหนักว่าการใช้ยาที่มีส่วนผสมของโคเดอีนทำให้พวกเขาติดยา เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่มีฐานะปานกลาง Grieve เชื่อว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ตัดสินใจขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตว่าผู้คนจำนวนมากไม่มีปัญหาในการรับใบสั่งยาจากแพทย์ และในกรณีร้ายแรง พวกเขาต้องติดต่อพยาบาล

ในปี 2554 แพทย์ออกใบสั่งยาที่มีส่วนประกอบของโคเดอีนมากกว่า 3.5 ล้านใบ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2.4 ล้านใบในปี 2549

จากการสำรวจผู้ใหญ่ 2,000 คนในร้านขายยา พบว่า 1 ใน 4 คนใช้ยาแก้ปวด ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่าเกิดจากความเครียดและความเหนื่อยล้า

แพทย์เตือนการใช้ยาแก้ปวดเป็นเวลานานอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ พาราเซตามอลหากใช้เป็นเวลานานอาจทำให้ตับและไตทำงานผิดปกติ ส่วนไอบูโพรเฟนก็เป็นอันตรายเพราะอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้

[ 1 ], [ 2 ]