แพทย์เผยชื่อการออกกำลังกายเผาผลาญไขมันที่ง่ายที่สุด

เป็นที่ทราบกันดีว่าเงื่อนไขหลักในการลดน้ำหนักมีอยู่ 2 ประการ คือ กินให้น้อยลงและเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น นักวิทยาศาสตร์อ้างว่าการออกกำลังกายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการลดน้ำหนักคือการเดินเป็นประจำ

การเดินเป็นกิจกรรมทางกายตามธรรมชาติของมนุษย์ ในชีวิตประจำวัน คนเราสามารถเดินไปได้ตั้งแต่ 1 ถึง 10 กิโลเมตรต่อวันโดยที่ไม่รู้ตัว โดยไม่ต้องออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม หลายคนสนใจคำถามที่ว่า ควรเดินกี่กิโลเมตร และต้องเดินอย่างไรจึงจะลดน้ำหนักได้

ไม่ว่าคนๆ หนึ่งจะไปที่ไหน - ไปร้านค้าหรือไปทำงาน - การเดินก็เผาผลาญพลังงานได้ในระดับหนึ่ง หากเดินอย่างช้าๆ และหยุดบ่อยๆ ก็จะทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้น้อยลง การเดินขึ้นเขา ขึ้นบันได หรือเดินบนหิมะเหนียวๆ จะทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น

ดังนั้น จึงคำนวณได้ว่าการเดินช้าๆ และนิ่งๆ จะช่วยให้คุณเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 180 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมง การเดินบนชายหาดทรายด้วยความเร็วปานกลางจะ "เผาผลาญ" ได้ 450 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมง การเดินเร็วในพื้นที่ขรุขระจะ "เผาผลาญ" ได้ 450 ถึง 550 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมง การเดินขึ้นบันไดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงจะ "กิน" ได้ 550 ถึง 750 กิโลแคลอรี ตัวบ่งชี้ที่เสนอนั้นคำนวณสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไปที่มีน้ำหนักตัวเฉลี่ย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงว่าหากน้ำหนักตัวมาก การเผาผลาญแคลอรี่จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนกว่า

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นหากคุณแกว่งแขนขณะเดิน หรือถือกระเป๋าหนักๆ หรือเป้สะพายหลัง

หากคุณตัดสินใจที่จะเดินเพื่อลดน้ำหนักคุณควรมีรองเท้าและเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย รองเท้าผ้าใบคุณภาพดีและเสื้อผ้าที่ไม่จำกัดการเคลื่อนไหวถือเป็นตัวเลือกที่ดี ไม่จำเป็นต้อง "เริ่ม" ด้วยความเร็วสูงสุดทันที ควรวิ่ง 1 กม. ใน 10 นาที โดยค่อยๆ เพิ่มความเร็วทีละน้อย

เมื่อเดิน ควรระวังท่าทางของตัวเองเพื่อไม่ให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากเกินไป โดยแนะนำให้เหยียบส้นเท้าก่อนแล้วค่อยกลิ้งปลายเท้า

หากต้องการแน่ใจว่าคุณได้เลือกความเข้มข้นในการเดินที่เหมาะสม ให้ใส่ใจกับการหายใจของคุณมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดคือให้บุคคลสามารถสนทนาได้ตามปกติในขณะที่เดิน แต่การร้องเพลงอาจเป็นเรื่องยากเนื่องจากหายใจไม่เพียงพอ แนะนำให้หายใจทางจมูกเพื่อป้องกันอาการหายใจไม่ออก

ก่อนและหลังการเดินควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 200 มล. และควรพกน้ำติดตัวไปด้วยโดยจิบทีละน้อยขณะเดิน

แต่งกายให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ หากรู้สึกหนาวหรือร้อนเกินไป ควรหยุดเดินและเปลี่ยนเสื้อผ้า

หากคุณรู้สึกหายใจไม่ออก เจ็บปวด หรือรู้สึกไม่สบายตัวอื่นๆ ขณะเดิน คุณควรหยุดและนั่งลง หากคุณรู้สึกไม่สบาย คุณไม่ควรออกกำลังกาย

อีกสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรทำคือกินในขณะเดิน เพราะเป้าหมายของคุณคือการลดน้ำหนักอย่าลืมเรื่องนี้ล่ะ

[ 1 ]