วัคซีนป้องกันสิวจะพร้อมให้บริการประชาชนเร็วๆ นี้

สิวที่ใบหน้าเป็นปัญหาเรื้อรังสำหรับหลายๆ คน อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้านี้ ใครๆ ก็สามารถรับวัคซีนป้องกันสิวได้ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเพิ่งทำการทดลองสร้างวัคซีนป้องกันสิวเสร็จเรียบร้อย ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าวัคซีนดังกล่าวจะกลายเป็นยาสามัญประจำสถาบันทางคลินิกหลายแห่งในไม่ช้านี้

นาย Eric K. Huang หัวหน้าคณะนักวิจัยอธิบายว่างานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนมหัศจรรย์นี้ดำเนินมานานหลายปีแล้ว แต่ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะเข้าถึงขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น

“สิวส่วนใหญ่มักเกิดจากจุลินทรีย์ก่อโรค เช่น แบคทีเรียกรดโพรพิโอนิก ซึ่งมีโปรตีนจำนวนมากและอาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์เป็นจำนวนมาก พิษของจุลินทรีย์เหล่านี้ไม่ได้แสดงออกมาเสมอไป แต่จะแสดงออกเฉพาะในสภาวะที่เอื้ออำนวยเท่านั้น” Eric K. Huang กล่าว

สิวเกิดขึ้นที่ใบหน้าเนื่องจากท่อไขมันอุดตัน สถานการณ์เช่นนี้เป็นผลดีต่อแบคทีเรียกรดโพรพิโอนิก เนื่องจากการเจริญเติบโตและการแพร่พันธุ์ของแบคทีเรียจะส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาอักเสบ เมื่อถึงจุดนี้ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำงาน จุลินทรีย์ก่อโรคจะตายลง แต่กระบวนการสร้างหนองจะเกิดขึ้นภายในท่อไขมัน ซึ่งเรียกว่าสิว ผู้พัฒนาวัคซีนชี้ให้เห็นว่าสิวเป็นโรคที่เป็นปัญหาและพบได้บ่อยมาก เฉพาะในชาวอเมริกันเพียงประเทศเดียว มีผู้ป่วยสิวอย่างน้อย 50 ล้านคน

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระบุว่าแบคทีเรียกรดโพรพิโอนิกไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ อย่างไรก็ตาม แบคทีเรียเหล่านี้จะสร้างโปรตีนพิษในระหว่างกระบวนการดำรงอยู่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อปฏิกิริยาอักเสบ ส่งผลให้กระบวนการทางพยาธิวิทยาในรูขุมขนของผิวหนังรุนแรงขึ้น วัคซีนที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้โปรตีนชนิดนี้เป็นกลาง นักวิทยาศาสตร์สามารถค้นพบแอนติบอดีเฉพาะที่สามารถป้องกันการตอบสนองเชิงลบของผิวหนังต่อผลพิษของสารโปรตีนได้

นักวิจัยรายงานว่าการทดสอบยาตัวใหม่กับหนูทดลองประสบความสำเร็จตามที่คาดไว้ ขั้นตอนต่อไปควรเป็นการทดสอบกับผู้คนที่สมัครเข้าร่วมการศึกษาโดยสมัครใจ การทดสอบวัสดุสำหรับฉีดครั้งสุดท้ายอาจใช้เวลาประมาณสองปี

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์แสดงความมั่นใจว่าภายในสองปีนี้ คำถามอมตะเกี่ยวกับการต่อสู้กับสิวจะหมดไป เพราะในอดีต การรักษาสิวมักต้องใช้เวลานานและซับซ้อนเพื่อกำจัดสิวโดยขั้นแรกผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจจากแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและแพทย์ด้านระบบทางเดินอาหาร จากนั้นจึงทำการทดสอบสถานะฮอร์โมน และหลังจากนั้นแพทย์จึงสั่งยาบางชนิด นอกจากวิธีการภายนอกแล้ว ยังมีการใช้วิธีการจากภายในด้วย ซึ่งบางครั้งเป็นยาต้านการอักเสบและบางครั้งก็เป็นยาฮอร์โมน หากผู้เชี่ยวชาญสามารถแก้ปัญหาด้วยวัคซีนรักษาสิวได้ในที่สุด ความจำเป็นในการรักษาที่ยาวนานเช่นนี้ก็จะหายไปทันที