การแช่แข็งสมองเป็นหนทางสู่ชีวิตนิรันดร์

ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท Humai ได้ประกาศว่าพวกเขาได้พัฒนาวิธีการพิเศษที่จะช่วยให้คนคนหนึ่งสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป ตามคำกล่าวของผู้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่นี้ เทคโนโลยีดังกล่าวใช้หลักการแช่แข็งสมองของผู้เสียชีวิตด้วยความเย็นจัด นักวิทยาศาสตร์เสนอโอกาสให้ทุกคนสามารถ "ฟื้นคืนชีพ" ขึ้นมาได้ภายในไม่กี่ทศวรรษ แช่แข็งสมองหลังจากเสียชีวิต และกลับมามีชีวิตใหม่ในร่างกายเทียม (ในขั้นตอนนี้ การปลูกถ่ายสมองเข้าไปในร่างกายใหม่เป็นไปไม่ได้ แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่าภายในไม่กี่ทศวรรษนี้ วิธีนี้จะเป็นไปได้ค่อนข้างมาก)

แต่เพื่อให้คนๆ หนึ่งกลายเป็นคนเดิมในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า นักวิทยาศาสตร์เสนอให้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หลังจากการแช่แข็ง นักวิทยาศาสตร์จะฝังชิปพิเศษไว้ในสมองซึ่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับบุคคลนั้นจะถูกบันทึกไว้ ผู้ที่ต้องการแช่แข็งทุกคนจะได้รับการศึกษาอย่างละเอียดก่อนเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบพฤติกรรม นิสัย ความคิด การพูด ฯลฯ จากนั้นหลังจากการปลูกถ่าย ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกผสานเข้ากับสมองและร่างกายใหม่ผ่านชิป

Josh Bocanegra ผู้ก่อตั้ง Humai กล่าวว่า ผู้ที่ต้องการใช้บริการแช่แข็งสมองและ "การฟื้นคืนชีพ" ในเวลาต่อมา ควรใช้แอปพลิเคชันพิเศษที่พัฒนาขึ้นเพื่อคัดเลือกผู้ที่ต้องการมีชีวิตอยู่ตลอดไป

นอกจากนี้ เขายังอธิบายด้วยว่าหลังจากความตาย สมองของมนุษย์จะถูกแช่แข็งโดยใช้เทคโนโลยีแช่แข็งล่าสุด เมื่อนักวิทยาศาสตร์ทำการพัฒนาที่จำเป็นทั้งหมดเสร็จสิ้นและพร้อมที่จะปลูกถ่ายสมองเข้าไปในร่างกายเทียมใหม่ มนุษย์จะสามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง นักวิทยาศาสตร์ยังตั้งใจที่จะใช้เทคโนโลยีระดับนาโนในการทำงานของพวกเขา ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเซลล์สมองไม่เพียงแต่หลังจากการละลายน้ำแข็งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระหว่างกระบวนการชราภาพตามธรรมชาติด้วย ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าความสำเร็จในการโคลนนิ่งจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับงานของพวกเขาในด้านนี้

หลายปีก่อน นักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวไว้แล้วว่าสมองของมนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าร่างกายมาก นักวิจัยชาวอเมริกันระบุว่าสมองสามารถทำงานได้ตามปกตินานถึง 200 ปี แต่ร่างกายของมนุษย์จะล้มเหลวเร็วกว่ามาก ดังนั้นพวกเขาจึงเสนอให้แทนที่อวัยวะที่ "ล้าสมัย" ด้วยอวัยวะเทียม ปัจจุบัน วิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการในทิศทางนี้ และในห้องปฏิบัติการ พวกเขาประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายหัวใจ ไต และอวัยวะสำคัญอื่นๆ ที่สามารถปลูกถ่ายให้กับมนุษย์ได้ เมื่อพิจารณาจากความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดทั้งหมดแล้ว อาจสันนิษฐานได้ว่าภายในไม่กี่ทศวรรษ อวัยวะเทียมจะถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในด้านการปลูกถ่ายอวัยวะและร่างกายเทียมจะไม่ใช่แค่เรื่องแต่ง แต่เป็นความจริง

อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรลืมปัจจัยเชิงลบที่ส่งผลต่อสุขภาพของเรา เช่น ระบบนิเวศน์ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาซึ่งทำการวิจัยระบุว่าการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายจากมหานครส่งผลกระทบเชิงลบอย่างยิ่งต่อสมองของมนุษย์ ไม่เพียงแต่จะกระตุ้นให้ระบบประสาททำงานผิดปกติเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคจิตเภทหรือออทิซึม และเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่านักวิทยาศาสตร์เสนอให้แช่แข็งสมองเพื่อให้มีชีวิต "ชั่วนิรันดร์" บางทีอาจควรให้ความสนใจกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นหรือไม่?