นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นยาตัวแรกของโลกที่สามารถชะลอการเกิดต้อกระจกได้

นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นยาตัวแรกของโลกที่สามารถชะลอการพัฒนาของโรคต้อกระจกและทำให้การก่อตัวล่าช้าออกไป ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรอบสุดท้าย 5 อันดับจากการแข่งขันโครงการทางธุรกิจที่จัดโดยมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (ออสเตรเลีย)

วิธีการรักษาต้อกระจก วิธีเดียวที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือ การผ่าตัดเอาเลนส์ที่ขุ่นมัวออกและใส่เลนส์สังเคราะห์ทดแทน

ยาของ Calpain Therapeutics มุ่งเป้าไปที่โปรตีนในเนื้อเยื่อตา ซึ่งเมื่อถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยกระตุ้นต่างๆ รวมถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา จะทำให้เลนส์ขุ่นมัว ต้อกระจกขั้นรุนแรงเป็นสาเหตุหลักของการตาบอด

แม้ว่าต้อกระจกส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น แต่บางครั้งต้อกระจกอาจเกิดจากโรคเบาหวาน การบาดเจ็บที่ดวงตา การได้รับแสงอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ การใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปสำนักงานป้องกันตาบอดระหว่างประเทศประมาณการว่าในปัจจุบันมีผู้คนเกือบ 18 ล้านคนที่ตาบอดเนื่องจากต้อกระจก ซึ่งหลายคนอาศัยอยู่ในประเทศยากจน

ปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถป้องกันหรือย้อนกลับอาการต้อกระจกได้ การรักษาเพียงอย่างเดียวคือการผ่าตัดเอาเลนส์ที่ขุ่นออกแล้วใส่เลนส์สังเคราะห์เข้าไปแทน มีการผ่าตัดดังกล่าวเกิดขึ้นมากกว่า 200,000 ครั้งต่อปีในออสเตรเลีย และประมาณ 3.4 ล้านครั้งในสหรัฐอเมริกา

การทดสอบยาที่พัฒนาโดย Calpain Therapeutics แสดงให้เห็นว่ายาสามารถชะลอการดำเนินของโรคต้อกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ ยานี้สามารถออกสู่ท้องตลาดในรูปแบบหยดหรือครีม ซึ่งควรทาที่ดวงตาทุกคืนก่อนเข้านอน โรคต้อกระจกสามารถตรวจพบได้ในระยะเริ่มต้นด้วยการตรวจตาตามปกติ ทันทีที่ได้รับการวินิจฉัยโรค คุณสามารถเริ่มใช้ยาตัวใหม่ที่ช่วยชะลอการดำเนินของโรคได้ แม้ว่าโรคต้อกระจกจะเกิดขึ้นที่ตาข้างเดียวก็ตาม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะส่งผลต่อตาข้างที่สอง ดังนั้นควรรักษาทั้งสองข้าง

[ 1 ], [ 2 ], [ 3 ], [ 4 ]