น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่

ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ทางเลือกหลายคนแนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล ผลิตภัณฑ์นี้มีประโยชน์จริงหรือไม่ หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ป่วยได้หรือไม่

นักวิจัยทางคลินิกชาวอเมริกันได้ทำการศึกษาเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว โดยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานรับการรักษาด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลและน้ำเปล่า (ยาหลอก) ระหว่างการศึกษา พบว่าการรับประทานน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะในตอนกลางคืนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดในเช้าวันรุ่งขึ้นต่ำกว่าก่อนเริ่มการรักษา นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังสามารถพิสูจน์ได้ว่าการบริโภคน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลคุณภาพดีเป็นประจำช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ไม่ว่าจะรับประทานอาหารอะไรก็ตาม

กลไกการทำให้ระดับน้ำตาลเป็นปกติด้วยน้ำส้มสายชูยังไม่ชัดเจน สันนิษฐานว่ากรดมาลิกทำให้การย่อยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นน้ำตาลช้าลง ซึ่งช่วยให้ตับอ่อนทำงานได้ กล่าวโดยง่ายแล้ว ระดับน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นสูงสุดจะราบรื่นขึ้นเล็กน้อยด้วยน้ำส้มสายชู ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยาลดน้ำตาลในเลือดบางชนิดออกฤทธิ์ในลักษณะเดียวกัน เช่น Miglitol

อย่างไรก็ตาม การวิจัยเพิ่มเติมโดยนักวิทยาศาสตร์ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก พบว่าน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีผลดีเฉพาะกับโรคเบาหวานประเภท 2 เท่านั้น แต่สำหรับโรคเบาหวานประเภท 1 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกลับมีผลเสียเท่านั้น เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

นักวิทยาศาสตร์จากสวีเดนได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมและพบว่าการรับประทานน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลในผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องพึ่งอินซูลินจะทำให้การย่อยอาหารในกระเพาะอาหารช้าลง ส่งผลให้ตับอ่อนต้องทำงานนานขึ้นและทำงานหนักขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์อย่างยิ่งสำหรับโรคนี้

จากผลการทดลองนักวิทยาศาสตร์ได้ข้อสรุปดังนี้:

• ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 รับประทานน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล
• น้ำส้มสายชูไม่ถือเป็นยารักษาโรคทุกชนิด แต่สามารถใช้ได้เพียงการรักษาควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและโภชนาการที่เหมาะสมเท่านั้น
• การรักษาด้วยน้ำส้มสายชูไม่ใช่เหตุผลที่จะปฏิเสธการใช้ยาที่แพทย์ด้านต่อมไร้ท่อสั่ง

และผู้เชี่ยวชาญได้ชี้แจงคำถามอีกข้อหนึ่งว่า ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ควรดื่มน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลอย่างไร?

ก่อนใช้ยาต้องเจือจางน้ำก่อน สำหรับน้ำส้มสายชู 1-2 ช้อน ต้องใช้น้ำ 200-250 มล.

ไม่ควรบริโภคน้ำส้มสายชูที่ไม่เจือจาง เพราะอาจส่งผลเสียต่อสภาพฟันและระบบย่อยอาหาร

ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้อธิบายว่าผลิตภัณฑ์ใดดีกว่ากัน ระหว่างผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือผลิตภัณฑ์ทำเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ น้ำส้มสายชูไม่ควรเป็นผลิตภัณฑ์สังเคราะห์หรือผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทำให้บริสุทธิ์ สารที่มีประโยชน์ส่วนใหญ่มักมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้กรอง ซึ่งบางครั้งอาจขุ่นและมีตะกอนอยู่ก้นขวด

จากข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เราสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่า ก่อนที่คุณจะเริ่มรักษาโรคที่ซับซ้อน เช่น เบาหวาน ด้วยตนเอง ควรปรึกษาแพทย์ของคุณก่อน

[ 1 ], [ 2 ], [ 3 ]