กรดยูริกในสระว่ายน้ำเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

เมื่อไม่นานนี้ นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาและจีนได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับน้ำในสระว่ายน้ำ และสรุปได้ว่าน้ำอาจมีสารพิษค่อนข้างมาก ได้แก่ ไตรคลอรามีนและไซยาโนเจนคลอไรด์

ไซยาโนเจนคลอไรด์มีพิษร้ายแรงและทำให้เกิดการระคายเคืองเฉพาะที่ หายใจไม่ออก และอาจทำให้เสียชีวิตได้ เมื่อสูดดมควันพิษเข้าไป ปอดและระบบหัวใจและหลอดเลือดจะได้รับผลกระทบก่อน นอกจากนี้ สารประกอบไตรคลอรามีนยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อปอดอย่างรุนแรง จากการศึกษาพบว่า การสูดดมอากาศที่มีสารประกอบพิษ โดยเฉพาะไซยาโนเจนคลอไรด์ เป็นเวลา 10 นาที จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต การได้รับไตรคลอรามีนในทางเดินหายใจเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดแผลไหม้รุนแรงได้

สารประกอบที่เป็นอันตรายที่เกิดขึ้นในสระว่ายน้ำเป็นผลพลอยได้จากการฆ่าเชื้อและสุขอนามัยที่ไม่ดีของนักว่ายน้ำ ในระหว่างการศึกษา นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ว่าคลอรีนซึ่งจำเป็นต่อการยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์ในน้ำมีปฏิกิริยากับกรดยูริกและของเหลวในร่างกายอื่นๆ อย่างไร จากผลการศึกษาพบว่ากรดยูริกที่มีอยู่ในปัสสาวะของมนุษย์เมื่อทำปฏิกิริยากับคลอรีนจะก่อให้เกิดสารพิษดังที่กล่าวข้างต้น

สารประกอบไตรคลอรามีนเมื่อทำปฏิกิริยากับสารฆ่าเชื้อที่มีคลอรีน จะทำให้ระบบปอดเสียหายอย่างรุนแรง นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าจากการศึกษาพบว่ากรดยูริกมากกว่า 90% ที่พบในสระว่ายน้ำเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากนักว่ายน้ำคนใดคนหนึ่งตัดสินใจฉี่ลงในสระว่ายน้ำ ก็จะเกิดปฏิกิริยาเคมีที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งระหว่างนั้นสารพิษระเหยได้จะเริ่มก่อตัวขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าทั้งอากาศและน้ำในสระว่ายน้ำสามารถและควรได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญผ่านนิสัยการรักษาสุขอนามัยที่ดีของผู้เข้าชม นักว่ายน้ำหลายคนละเลยสัญญาณเตือนเกี่ยวกับสุขอนามัยที่เหมาะสมในสระว่ายน้ำ ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคร้ายแรงไม่เพียงแต่ในตัวพวกเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่มาใช้บริการสระว่ายน้ำอีกด้วย

จากการสำรวจในปี 2009 พบว่าผู้คนมากกว่า 60% ไม่สงสัยด้วยซ้ำว่าการสูดดม กลืน หรือสัมผัสน้ำที่ปนเปื้อนจะทำให้เกิดอาการป่วยร้ายแรงได้ เมื่อไม่นานมานี้ จำนวนผู้ป่วยโรคที่เกิดจากน้ำในสระว่ายน้ำที่ปนเปื้อนเพิ่มมากขึ้น โรคที่พบบ่อยที่สุดคือโรคท้องร่วงซึ่งเกิดจากแบคทีเรีย Cryptosporidium และ E. Coli ซึ่งแบคทีเรียชนิดหลังพบในสระว่ายน้ำสาธารณะเกือบครึ่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา

เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรไปสระว่ายน้ำสาธารณะในขณะที่มีอาการท้องเสีย ก่อนลงสระว่ายน้ำควรอาบน้ำด้วยสบู่ และหลังจากเข้าห้องน้ำควรล้างมือให้สะอาด

การศึกษาวิจัยอื่นๆ ที่ดำเนินการในพื้นที่นี้แสดงให้เห็นว่าการไปสระว่ายน้ำในร่มที่มีน้ำคลอรีนเป็นประจำอาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจร้ายแรงและความเสียหายของ DNA ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกมะเร็ง