ความเครียดทางการเงิน: คำศัพท์ใหม่ในสาขาโรคหัวใจ

ผลลัพธ์ของการศึกษาใหม่ที่นำเสนอในการประชุมใหญ่สมาคมโรคหัวใจแห่งแอฟริกาใต้ครั้งที่ 18 นำไปสู่การระบุคำศัพท์ใหม่ – “ความเครียดทางการเงิน” – ซึ่งเป็นผลมาจากการแสวงหาความมั่นคงทางการเงินของบุคคล

นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า หากความเครียดประเภทที่ยอมรับกันโดยทั่วไปทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอาการหัวใจ วายเพิ่มขึ้น 6 เท่า ความเครียดด้านการเงินที่เกิดจากความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อสถานการณ์ทางการเงินก็จะเพิ่มความเสี่ยงดังกล่าวขึ้น 13 เท่าเช่นกัน

คนสมัยใหม่มักคิดเรื่องเงินอยู่เสมอ จากสถิติของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน พบว่าชาวอเมริกันมากกว่า 70% ประสบปัญหาความเครียดเกี่ยวกับเงินในช่วงเดือนที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว และอีก 20% ระบุว่ามีปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

นักวิทยาศาสตร์กำลังส่งสัญญาณเตือน: ความเครียดทางการเงินกำลังส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพของมนุษย์มากกว่าที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ศาสตราจารย์ Denishan Govender หนึ่งในผู้เขียนผลการศึกษาได้อธิบายสาระสำคัญของโครงการนี้ว่า “การศึกษาทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากไม่ได้คำนึงถึงอิทธิพลของปัจจัยทางจิตวิทยาและสังคมที่ส่งผลต่อการพัฒนาของพยาธิวิทยาอีกต่อไป นักวิทยาศาสตร์ศึกษาไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องและวัณโรค แต่ไม่ได้คำนึงถึงปัญหาเศรษฐกิจที่นำไปสู่การเสียชีวิตของผู้คนจำนวนไม่น้อย”

เพื่อศึกษาผลกระทบของปัจจัยเหล่านี้ต่อการพัฒนาของพยาธิวิทยาของหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจผู้ป่วยมากกว่าร้อยรายที่เคยมีอาการหัวใจวายและเข้ารับการรักษาในคลินิกแห่งหนึ่งในโจฮันเนสเบิร์ก นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาตัวชี้วัดสุขภาพของคนทั่วไปในกลุ่มอายุและเพศที่เกี่ยวข้องด้วย ผู้เข้าร่วมทุกคนจะต้องกรอกแบบสอบถามซึ่งระบุข้อมูลเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความกลัว และความเครียดที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้มาตราส่วนทดสอบลิเคิร์ตทางจิตวิทยาอีกด้วย

ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการหัวใจวายร้อยละ 96 ยอมรับว่ามีปัญหาทางการเงินทันทีก่อนที่จะเกิดอาการหัวใจวาย ส่วนผู้ป่วยที่เข้ารับการสำรวจร้อยละ 40 ระบุว่ามีความเครียดทางการเงินอย่างรุนแรงก่อนเกิดอาการหัวใจวาย

นักวิทยาศาสตร์ได้คำนวณแล้วพบว่าความผันผวนทางการเงินที่รุนแรงทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอาการหัวใจวายเพิ่มขึ้น 13 เท่า และปัญหาทางการเงินเล็กน้อยทำให้ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเกือบ 6 เท่า

ในเวลาเดียวกัน ภาวะซึมเศร้ายังมีบทบาทเล็กน้อยต่อการพัฒนาของโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยไม่คำนึงถึงสาเหตุการเกิดขึ้น

“แพทย์ทุกคนทราบดีถึงผลที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะซึมเศร้าและภาวะเครียด หน้าที่ของเราคือการระบุบุคคลเหล่านี้ล่วงหน้า แม้กระทั่งก่อนถึงช่วงเวลาที่พวกเขาจะมีอาการหัวใจวาย บุคคลเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการปรึกษาจากนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอื่นๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน” ศาสตราจารย์เดวิด แยงเคลอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจจากสาธารณรัฐแอฟริกาใต้กล่าว

ผลงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยวิทวอเตอร์สรันด์ในโจฮันเนสเบิร์ก

[ 1 ], [ 2 ], [ 3 ], [ 4 ], [ 5 ], [ 6 ], [ 7 ], [ 8 ], [ 9 ]