การศึกษาปฐมวัยนำมาซึ่งความสำเร็จ

วิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเด็กๆ ใช้พัฒนาทักษะด้านภาษาตั้งแต่อายุยังน้อย เรียนรู้การอ่านและการเขียน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก

เดิมทีนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ต้องการมีส่วนร่วมเพียง 60 ครอบครัวที่มีลูกเล็กในการทดลองของพวกเขา แต่เมื่อทราบผลลัพธ์เบื้องต้นของการทำงานกับวิธีนี้ จำนวนอาสาสมัครที่ต้องการมีส่วนร่วมในการศึกษาก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือ 6,000 คน

รายงานจาก National Literacy Trust ในเดือนพฤษภาคมพบว่าเด็กในอังกฤษมีฐานความรู้ที่แย่ อ่านและเขียนได้แย่กว่าเด็กในออสเตรเลียและแคนาดา แม้ว่าอังกฤษจะใช้จ่ายเงินค่าขนมและค่าหนังสือเรียนของเด็กถึง 4% ของ GDP ก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สหรัฐอเมริกาและแคนาดาใช้จ่ายเงิน 1.2% และ 1.4% ตามลำดับ

ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ศึกษาแนวทางใหม่ที่ช่วยให้สามารถบรรลุผลการเรียนรู้ที่ดีได้ภายในเวลาอันสั้น

องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของวิธีนี้คือบทบาทของผู้ปกครองในกระบวนการนี้

คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ช่วยคนแรกของลูกในการแสวงหาความรู้ เพื่อให้กระบวนการนี้ง่ายดาย ผ่อนคลาย และกระตุ้นความสนใจของลูก คุณพ่อคุณแม่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญต่อไปนี้

• จัดเตรียมสิ่งจำเป็นทั้งหมดสำหรับเด็กเพื่อกิจกรรมทางปัญญาตามปกติ ได้แก่ หนังสือ เอกสารการเขียน และสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการศึกษา
• การยอมรับความสำเร็จของนักเรียนรุ่นเยาว์ ควรชมเชยเด็ก อย่าเพิกเฉยต่อความสำเร็จของเขา และอย่ามุ่งเน้นไปที่ความล้มเหลวและความผิดพลาด บางครั้งการชมเชยสามารถให้ผลพิเศษได้ เด็กจะเริ่มพยายามและมีความมั่นใจว่าเขาจะประสบความสำเร็จ
• การช่วยเหลือและการมีปฏิสัมพันธ์ เพื่อให้ได้รับความรู้อย่างประสบความสำเร็จ เด็กๆ จะได้รับประโยชน์จากการทำกิจกรรมร่วมกับผู้ใหญ่ ซึ่งอาจเป็นการเรียนบทกวี การอ่านนิทาน การวาดรูป และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งสำคัญคือผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ ไม่ใช่หวังว่าเด็กๆ จะเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง
• วิธีที่ดีในการกระตุ้นให้เด็ก ๆ แสวงหาความรู้ใหม่คือการแสดงให้พวกเขาเห็นว่าทุกสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

ครอบครัวส่วนใหญ่ที่ใช้วิธีการนี้พบว่าได้ผลดีในการเรียนรู้การอ่าน และยังส่งเสริมให้เด็กอายุ 2 ขวบเริ่มพูดคุยได้อีกด้วย ส่วนเด็กชายที่มีนิสัยดื้อรั้นก็มีความสนใจในวิธีการสื่อสารผ่านการเขียนเพิ่มมากขึ้น