จำนวนผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ผลการศึกษาวิจัยในนอร์เวย์ในระยะยาวพบว่าจำนวนผู้ที่มีอาการเสียดท้องอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพิ่มขึ้นเกือบ 50% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาดังกล่าวทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์เกิดความกังวลว่าแนวโน้มดังกล่าวอาจนำไปสู่มะเร็งหลอดอาหารเพิ่มขึ้นในอนาคต

นักวิทยาศาสตร์เขียนเกี่ยวกับผลการค้นพบของพวกเขาในวารสาร Gut

อาการเสียดท้องหรือที่เรียกว่ากรดไหลย้อน คือภาวะที่ สิ่งที่อยู่ ในกระเพาะซึ่งรวมถึงอาหารและน้ำย่อยในกระเพาะไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหารอาการดังกล่าวจะระคายเคืองเยื่อบุหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการเสียดท้องและมีอาการไม่สบายตัวอื่นๆ

ในการศึกษานี้ ผู้เขียนหลัก Eivind Naess-Jensen จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์เวย์ (Levanger) และเพื่อนร่วมงานได้วิเคราะห์สุขภาพระบบทางเดินอาหารของผู้คนเกือบ 30,000 คน

ข้อมูลครอบคลุมระยะเวลา 11 ปีระหว่างปี 1995 ถึง 2006 นักวิทยาศาสตร์พบว่า:

• ในช่วงระยะเวลาการศึกษา พบว่าอุบัติการณ์ของอาการกรดไหลย้อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 (จากร้อยละ 31.4 เป็นร้อยละ 40.9 ของผู้เข้าร่วม) ในขณะที่อาการรุนแรงมากขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 (จากร้อยละ 5.4 เป็นร้อยละ 6.7)
• จำนวนผู้ที่ประสบกับอาการเสียดท้องอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพิ่มขึ้น 47% (จาก 11.6% เป็น 17.1%) การเพิ่มขึ้นนี้เห็นได้ชัดในทั้งผู้ชายและผู้หญิง และในทุกช่วงวัย
• ผู้เข้าร่วมเกือบทั้งหมด (98%) ที่มีอาการเสียดท้องรุนแรงใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับ 31% ของผู้ที่มีอาการปานกลาง
• ผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี มีโอกาสเป็นโรคหลอดอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อนน้อยกว่า
• อาการเสียดท้องอาจหายไปเองได้โดยไม่ต้องใช้ยา แต่จากการศึกษาพบว่าเกิดขึ้นเพียง 2% ของกรณีเท่านั้น

คำอธิบายประการหนึ่งสำหรับอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคหลอดอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อนคือจำนวนคนที่น้ำหนักเกินและอ้วนที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ โรคหลอดอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อนในผู้หญิงอาจเกี่ยวข้องกับการใช้ฮอร์โมนทดแทน (HRT)

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า "อัตราการเกิดโรคหลอดอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อนที่เพิ่มมากขึ้นนั้นน่ากังวล เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้มีการเกิดมะเร็งต่อมหลอดอาหารเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มประชากรในโลกตะวันตก"