พบสารหนูและตะกั่วในน้ำแอปเปิ้ลและน้ำองุ่น

การถกเถียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของน้ำผลไม้ได้เข้มข้นมากขึ้นหลังจากการศึกษาของ Consumer Reports พบว่าน้ำแอปเปิ้ลและน้ำองุ่นจำนวนมากมีสารหนูในระดับสูง

นักวิทยาศาสตร์พบว่าปริมาณพิษสูงเกินมาตรฐานน้ำดื่มของรัฐบาลกลางในน้ำผลไม้ 10 เปอร์เซ็นต์จาก 88 ตัวอย่างที่ทดสอบใน 5 แบรนด์ชั้นนำที่จำหน่ายในขวด กล่อง หรือกระป๋อง

สารหนูที่พบส่วนใหญ่เป็นสารอนินทรีย์ ซึ่งหมายความว่าการดื่มน้ำผลไม้เหล่านี้อาจทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งปอด และมะเร็งผิวหนัง นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเบาหวานประเภทที่ 2 และการศึกษาบางกรณียังชี้ให้เห็นว่าสารหนูอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองในเด็ก

ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของน้ำแอปเปิลถูกหยิบยกขึ้นมาในเดือนกันยายน เมื่อดร. เมห์เมต ออซ พิธีกรรายการ The Dr. Oz Show กล่าวว่าน้ำแอปเปิลที่นำมาทดสอบประมาณหนึ่งในสามมีปริมาณสารหนูเกิน 10 ส่วนต่อพันล้านส่วน (ppb) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับน้ำดื่ม อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานปริมาณสารหนูในน้ำผลไม้หรืออาหาร

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ออกแถลงการณ์ระบุว่า "มีความเชื่อมั่นเต็มที่ในความปลอดภัยของน้ำแอปเปิล"

และเพื่อยุติการถกเถียงนี้ Consumer Reports จึงตัดสินใจทดสอบน้ำผลไม้อีกรอบหนึ่ง

ระดับสารหนูในตัวอย่างน้ำองุ่นสูงกว่าในน้ำแอปเปิลด้วยซ้ำ โดยมีระดับสูงสุดที่ 25 ppb ซึ่งสูงกว่าขีดจำกัดความปลอดภัยสำหรับน้ำดื่มถึงสองเท่า

สารหนูเป็นธาตุที่พบได้ตามธรรมชาติซึ่งสามารถปนเปื้อนน้ำใต้ดินที่ใช้สำหรับดื่มและชลประทาน นอกจากนี้ยังใช้ในอุตสาหกรรมและการเกษตรอีกด้วย นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากไก่ ข้าว และแม้แต่อาหารเด็กก็มีสารหนูอนินทรีย์อยู่ด้วย

ผลการศึกษาของ Consumer Reports พบว่าน้ำแอปเปิล 25% มีปริมาณตะกั่วเกินระดับที่ FDA แนะนำสำหรับน้ำขวด

จากการใช้ข้อมูลจาก Consumer Reports นักวิทยาศาสตร์พบว่า ผู้ที่ดื่มน้ำแอปเปิ้ลหรือน้ำองุ่นเมื่อเร็วๆ นี้จะมีสารหนูในปัสสาวะมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มน้ำผลไม้ดังกล่าวถึงร้อยละ 20

Consumers Union และ Consumer Reports เรียกร้องให้ FDA กำหนดมาตรฐานสารหนูและตะกั่วในน้ำแอปเปิ้ลและน้ำองุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบสารหนูอนินทรีย์ในอาหารอื่นๆ

ระดับตะกั่วในน้ำผลไม้ต้องจำกัดไว้ที่ 5 ส่วนต่อพันล้านส่วน เช่นเดียวกับน้ำขวด ในขณะที่ระดับสารหนูในน้ำผลไม้ต้องไม่เกิน 3 ส่วนต่อพันล้านส่วน

นอกจากนี้ Consumer Reports ยังแนะนำให้ผู้ปกครองจำกัดการบริโภคน้ำผลไม้ของบุตรหลานตามแนวทางของ American Academy of Pediatrics โดยห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือนดื่มน้ำผลไม้ และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีดื่มไม่เกิน 4-6 กรัมต่อวัน นอกจากนี้ยังแนะนำให้เจือจางน้ำผลไม้ด้วยน้ำอีกด้วย

“การมีอยู่ของพิษที่อาจถึงแก่ชีวิตไม่ได้เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่เด็กไม่ควรดื่มน้ำผลไม้” ดร. ปีเตอร์ ริเชล กล่าว “น้ำผลไม้เป็นแคลอรี่ว่างเปล่า อุดมไปด้วยน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต ซึ่งนำไปสู่ภาวะอ้วนในเด็ก”

การสำรวจโดย Consumer Reports พบว่าเด็กอายุ 5 ขวบและต่ำกว่าร้อยละ 35 ดื่มน้ำผลไม้มากกว่าที่แนะนำ

[ 1 ]