เด็ก 7.6 ล้านคนเสียชีวิตก่อนอายุครบ 5 ขวบทุกปี

เจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก 80 ประเทศและกลุ่มผู้นำด้านสุขภาพเรียกร้องให้มีการร่วมมือกันเพื่อช่วยชีวิตเด็กๆ ที่เสียชีวิตก่อนอายุครบ 5 ขวบจากโรคที่ป้องกันได้ โดยโครงการใหม่ที่ทะเยอทะยานนี้คาดว่าจะช่วยลดจำนวนเด็กที่เสียชีวิตจาก 7.6 ล้านคนต่อปีให้เหลือ 1 ล้านคนภายใน 2 ทศวรรษ

ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้แพทย์และเจ้าหน้าที่รัฐทั่วโลกเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการต่อสู้กับอัตราการเสียชีวิตของเด็ก โดยได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ที่กรุงวอชิงตัน

“จะมีวันหนึ่งที่เด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดที่ใดก็จะมีโอกาสมีชีวิตรอด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าว

ผู้แทนส่วนใหญ่ทราบดีว่าเป้าหมายดังกล่าวสามารถบรรลุได้ด้วยการใช้ยาที่มีต้นทุนต่ำแต่มีประสิทธิภาพร่วมกัน แอนโธนี เลค ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟกล่าวว่าความท้าทายหลักคือการหาเจตจำนงทางการเมืองเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว เลคกล่าวว่าความท้าทายใหม่ประการหนึ่งสำหรับองค์การยูนิเซฟคือการระบุและมุ่งเน้นความพยายามส่วนใหญ่ไปที่ 5 ประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตของเด็กจากโรคที่รักษาได้สูงที่สุด

ราจีฟ ชาห์ ผู้บริหารองค์การยูนิเซฟ กล่าวว่า ประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย ปากีสถาน ไนจีเรีย สาธารณรัฐโดมินิกัน และเอธิโอเปีย ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตของเด็กเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ กำลังประกาศแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ ทรัพยากร และความมุ่งมั่นอย่างจริงจัง และองค์กรระหว่างประเทศก็แสดงความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน “ทั้งหมดนี้ทำให้เราเชื่อมั่นในความสำเร็จของแผนของเรา” ชาห์กล่าวสรุป

เด็กส่วนใหญ่ที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบเสียชีวิตจากโรคที่รักษาและป้องกันได้ เช่น โรคมาลาเรียและปอดบวม หัวหน้าพันธมิตรระดับโลกเพื่อวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันกล่าวว่าความสำเร็จของความพยายามร่วมกันนี้ขึ้นอยู่กับการให้การเข้าถึงวิธีการทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในทุกมุมโลก

[ 1 ], [ 2 ], [ 3 ], [ 4 ]