ยิ่งคุณดื่มกาแฟมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมก็ยิ่งลดลงเท่านั้น

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากสวีเดนระบุว่าการดื่มกาแฟในปริมาณมากช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมได้ ข้อสรุปดังกล่าวได้มาจากการศึกษาวิจัยที่ยาวนาน (20 ปี) ซึ่งมีผู้หญิงเข้าร่วม 40,000 คน

ผู้หญิงที่เข้าร่วมการทดลองจะต้องทำสมุดบันทึกการรับประทานอาหาร โดยบันทึกทุกสิ่งที่ดื่มในแต่ละวันและในปริมาณ (เช่น กาแฟหรือชาจำนวนกี่แก้ว น้ำผลไม้ เป็นต้น)

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ ผู้เชี่ยวชาญพบว่าผู้หญิงที่ชอบดื่มกาแฟและดื่มได้มากกว่า 5 แก้วต่อวัน มักมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม น้อยกว่า ในขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ยังสังเกตว่ายิ่งดื่มกาแฟมากขึ้นต่อวัน ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งก็จะยิ่งลดลง (การดื่มกาแฟ 5 แก้วต่อวันช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมได้เกือบ 20%) ในขณะเดียวกัน แม้ว่าจะมีคาเฟอีนในกาแฟและชา (ทั้งแบบดำและเขียว) แต่ผู้ที่รักชาจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มชาหรือกาแฟเลย

ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ยังระบุไม่ได้ว่าคาเฟอีนช่วยต่อต้านมะเร็งได้อย่างไร และทำไมกาแฟถึงมีผลดี ผู้เชี่ยวชาญบางคนเสนอแนะว่าคาเฟอีนมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในกาแฟทั้งหมด จากการศึกษาพบว่าสารเหล่านี้สามารถหยุดกระบวนการทำลายเซลล์และป้องกันการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กาแฟกลายเป็นจุดสนใจของนักวิทยาศาสตร์ ในการศึกษาวิจัยอื่นๆ นักวิทยาศาสตร์ได้หักล้างความเชื่อที่แพร่หลายว่าการดื่มกาแฟหนึ่งถ้วยในตอนเช้าจะช่วยให้ตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่าขึ้น อย่างไรก็ตาม กาแฟมีประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ ช่วยรับมือกับอาการซึมเศร้า (นักวิทยาศาสตร์สังเกตว่ากาแฟช่วยขจัดความคิดที่จะฆ่าตัวตายได้ด้วยซ้ำ) และช่วยเพิ่มความจำ

แม้ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้จะมีคุณประโยชน์อยู่บ้าง แต่ผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือหลอดเลือดไม่ควรดื่มกาแฟ นอกจากนี้ การดื่มมากเกินไป (4-5 แก้วต่อวันหรือมากกว่า) ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนของอวัยวะภายในได้ ดังนั้นจึงควรยึดถือหลักการนี้ไว้ดีกว่า: "ทุกอย่างดีเมื่อดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ"

นอกจากนี้ จากการศึกษาวิจัยล่าสุดโดยนักวิทยาศาสตร์ยุโรป พบว่ากาแฟช่วยปกป้องสมองจากการเกิดเนื้องอกมะเร็ง

การศึกษานี้ดำเนินการเป็นเวลา 8 ปีและมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก อาสาสมัครทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมีอาหารและวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน หลังจากสรุปผลแล้ว นักวิทยาศาสตร์พบว่าเครื่องดื่ม เช่น ชาและกาแฟ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งสมอง นอกจากเครื่องดื่มแล้ว อาหารยังช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ อีกด้วย ตัวอย่างเช่น มะเขือเทศช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง ลูกพรุน องุ่น ลูกเกด ป้องกันมะเร็งเม็ดเลือด บรอกโคลีและราสเบอร์รี่ ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง

ภายหลังจากการวิจัย นักวิทยาศาสตร์ได้เน้นย้ำอีกครั้งว่าธรรมชาติเองก็ดูแลสุขภาพของมนุษย์ และโภชนาการที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตที่กระตือรือร้นจะช่วยให้คนๆ หนึ่งมีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว