เหตุใดโรคอัลไซเมอร์จึงเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่า?

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าวงการแพทย์ต้องการวิธีการใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการต่อสู้กับโรคอัลไซเมอร์ แล้วทำไมนักวิทยาศาสตร์จึงไม่สามารถค้นพบวิธีแก้ไขปัญหานี้ได้ หรือบางทีพวกเขาอาจแค่ค้นหาในสถานที่ที่ผิดก็ได้

นักวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้หญิงมากกว่าในผู้ชายกับภูมิหลังฮอร์โมนของผู้หญิง รวมถึงการผ่าตัดมดลูก อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น นักวิจัยยังไม่ทราบคำตอบที่ชัดเจน

พวกเขาสงสัยว่าทำไมผู้หญิงจึงเสี่ยงต่อโรคนี้มากกว่า สมองของผู้หญิงได้รับผลกระทบจากโรคอัลไซเมอร์มากกว่าผู้ชาย ซึ่งสมองของผู้ชายดูเหมือนจะสามารถต้านทานโรคนี้ได้ดีกว่า

งานวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นว่าความแตกต่างทางเพศเป็นสาเหตุของอุบัติการณ์โรคนี้ในผู้หญิงสูง และการบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนซึ่งเป็นที่นิยมซึ่งแนะนำสำหรับโรคนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของผู้หญิงอย่างไม่สามารถแก้ไขได้

ความแตกต่างในโครงสร้างสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงเป็นที่ทราบกันมานานแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเหตุใดลักษณะพื้นฐานเหล่านี้ ซึ่งในที่สุดอาจเป็นคำตอบของโรคอัลไซเมอร์ จึงมักถูกละเลยไป

ดร.เกล็นดา กิลลิส ศาสตราจารย์ด้านเภสัชวิทยาต่อมไร้ท่อประสาทแห่งวิทยาลัยอิมพีเรียลลอนดอน กล่าวว่าเรื่องความแตกต่างทางเพศระหว่างผู้ชายและผู้หญิงยังคงเป็นงานที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เชื่อว่ากุญแจไขปริศนาอยู่ที่ความแตกต่างระหว่างเพศ

นักวิจัยจากศูนย์การแพทย์ Rush University Medical Center ในเมืองชิคาโกพบว่าสมองของทั้งผู้ชายและผู้หญิงมีจำนวนปมประสาทเท่ากัน อย่างไรก็ตาม เหตุใดผู้หญิงจึงเสี่ยงต่อโรคนี้มากกว่าผู้ชายนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด

ฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิงอยู่ในสถานะตั้งรับ แต่ไม่มีใครเข้าใจได้ว่าทำไมอาการของโรคจึงแตกต่างกันมาก

งานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอังกฤษแห่งเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ยืนยันว่าสมองของผู้ชายสามารถต้านทานโรคสมองเสื่อมชนิดชราได้ดีกว่าสมองของผู้หญิง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับภาวะที่ความสามารถทางจิตลดลง

กลุ่มชาย 828 คนและหญิง 1,238 คนได้รับการทดสอบคุณภาพของความจำตามเหตุการณ์ (ซึ่งใช้เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต) และความจำด้านความหมาย ซึ่งครอบคลุมถึงข้อมูลปัจจุบัน

ผู้ชายที่เป็นโรคอัลไซเมอร์มีประสิทธิภาพการประมวลผลทางปัญญา 5 ด้านดีกว่าผู้หญิงอย่างเห็นได้ชัด ประการแรกและสำคัญที่สุด คือ ความสามารถในการรับรู้และประมวลผลข้อมูลภายนอกทางจิตใจ