เมื่อ 100 ปีก่อน ผู้คนป่วยเป็นอะไร?

โรคไข้หวัดใหญ่และวัณโรคคร่าชีวิตผู้คนในอดีตมากกว่าโรคมะเร็งและโรคหัวใจในปัจจุบัน

นักประวัติศาสตร์การแพทย์ David Jones, Scott Podolsky และ Jeremy Green วิเคราะห์อัตราการเสียชีวิตทั่วโลกในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา และเปรียบเทียบโรคที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในปีพ.ศ. 2443 และปัจจุบัน

ตัวเลขใกล้แกนแนวตั้งคือจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด และตัวเลขใกล้ชื่อโรคแต่ละโรคคือจำนวนผู้เสียชีวิตต่อประชากร 100,000 คน ดังที่เห็นได้จากแผนภาพ ธรรมชาติของโรคและอัตราการเกิดโรคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โรคบางชนิดสามารถรักษาให้หายได้หรือหายไปหมดสิ้น ในขณะที่โรคบางชนิดเพิ่งปรากฏขึ้นเมื่อไม่นานนี้

ที่น่าสังเกตก็คือ ในช่วงต้นศตวรรษที่แล้ว แพทย์มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับปัญหาด้านการใช้ชีวิตอยู่ประจำที่ ซึ่งตามที่คาดไว้ เป็นผลมาจากการใช้รถยนต์ ลิฟต์ และกลไกอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับกิจกรรมทางกายของผู้คนในอนาคตอย่างแพร่หลาย

บทความหนึ่งในยุคนั้นได้ทำนายไว้โดยเฉพาะถึงการเกิดขึ้นของโรคที่เรียกว่า “เข่าเสื่อมจากอุบัติเหตุรถยนต์” ซึ่งคำนี้หมายถึงปัญหาที่ข้อต่อต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการขับรถในท่าเดียวเป็นเวลานาน

กราฟยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าการพัฒนายา (โดยเฉพาะการประดิษฐ์ยาปฏิชีวนะและการใช้กฎอนามัยพื้นฐานอย่างแพร่หลาย) ในศตวรรษที่ 20 ทำให้สามารถกำจัดอัตราการเสียชีวิตจากโรคปอดบวม วัณโรค และโรคทางเดินอาหารได้จริง ในขณะเดียวกัน โรคหัวใจและหลอดเลือดก็กลายเป็นภัยคุกคามหลักต่อคนในยุคปัจจุบัน รวมถึงโรคมะเร็งด้วยด้วยเหตุผลหลายประการ

ในบรรดาภัยคุกคามที่สำคัญที่มนุษยชาติต้องเผชิญด้วยความสูญเสียมากหรือน้อยในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้บันทึกการระบาดของโรคติดเชื้อต่างๆ เป็นระยะๆ เช่น โรคสมองอักเสบจากเชื้ออีสเทิร์นอีควินในปี พ.ศ. 2481 โรคเลจิโอแนร์ในปี พ.ศ. 2520 โรคเอดส์ในปี พ.ศ. 2524 และวัณโรคซึ่งกลายพันธุ์โดยไม่คาดคิดและดื้อต่อวัคซีนในปี พ.ศ. 2536