พลาสติกลดความต้องการทางเพศของผู้หญิง

ในสภาวะปัจจุบัน เราถูกล้อมรอบด้วยพลาสติกมากขึ้นเรื่อยๆ พลาสติกมักพบในพื้น ม่านห้องอาบน้ำ เป็นต้น จากผลการศึกษาล่าสุดพบว่าสารพาทาเลต (สารเคมีที่ทำให้พลาสติกนิ่มและยืดหยุ่นได้) ที่อยู่ในพลาสติกส่งผลต่อความต้องการทางเพศของผู้หญิงอย่างมาก จากการศึกษาพบว่าสารพาทาเลตในระดับสูงในร่างกายของผู้หญิงส่งผลให้ผู้หญิงปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์มากขึ้นถึงสองเท่า

สารพาทาเลตสามารถซึมผ่านร่างกายมนุษย์ได้ และก่อนหน้านี้สารพาทาเลตเคยเชื่อมโยงกับโรคเบาหวานและโรคหอบหืด รวมถึงผลเสียต่อสมองในเด็กผู้ชาย แต่จากการศึกษาล่าสุดพบว่าสารพาทาเลตยังเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนและส่งผลต่อจิตใจของผู้หญิงอีกด้วย

ที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ ดร. เอมิลี่ บาร์เร็ตต์และเพื่อนร่วมงานได้ทำการศึกษาวิจัยที่ประเมินระดับพทาเลตในปัสสาวะของสตรีมีครรภ์ โดยการทดลองดังกล่าวมีสตรีเข้าร่วมมากกว่า 300 คน

นักวิทยาศาสตร์ยังได้คำนึงถึงความถี่ของความต้องการทางเพศที่ลดลงก่อนการตั้งครรภ์ด้วย

กลุ่มผู้เข้าร่วมที่ตรวจพบสารพาทาเลทในปัสสาวะในระดับสูงสุด มีแนวโน้มที่จะรายงานว่ารู้สึกไม่อยากมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งมากกว่ากลุ่มที่มีสารพาทาเลทในระดับต่ำที่สุดถึง 2.5 เท่า

หลังจากการทดสอบทั้งหมด ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าสารพาทาเลตอาจส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเพศ (เทสโทสเตอโรนและเอสโตรเจน) ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความต้องการทางเพศของผู้หญิง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้จำกัดการบริโภคอาหารแปรรูปและอาหารบรรจุหีบห่อ เนื่องจากอาหารเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับสารเคมีอันตรายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารพาทาเลต และนักวิทยาศาสตร์ยังแนะนำให้กำจัดผลิตภัณฑ์พีวีซีในบ้านหากเป็นไปได้

นอกจากนี้ โครงการวิจัยล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าความต้องการทางเพศสามารถได้รับผลกระทบจากท่าทางได้ ผู้ที่เดินหลังค่อมมักจะพูดจาหยาบคาย ขี้อายและหลงตัวเองมากขึ้น และยังมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้า โกรธง่าย และอื่นๆ อีกด้วย และเมื่อเร็วๆ นี้ ความต้องการทางเพศที่ลดลงก็ถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อนี้ด้วย

นิสัยการหลังค่อมบ่งบอกถึงความเครียดอย่างต่อเนื่องและการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว

ในตำแหน่งนี้ การไหลเวียนของเลือด สารอาหาร และออกซิเจนไปยังอวัยวะและระบบหลักของร่างกายจะลดลง เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ร่างกายจะรู้สึกอ่อนล้า ง่วงนอน และหายใจได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีปฏิกิริยาเครียด ทำให้พลังงานลดลงและส่งผลต่อการนอนหลับ เป็นที่ทราบกันดีว่าพลังงานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสมรรถภาพทางเพศ

มีผู้เข้าร่วมการศึกษามากกว่า 70 คน ผู้เชี่ยวชาญแบ่งอาสาสมัครทั้งหมดออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งนั่งหลังค่อม อีกกลุ่มนั่งหลังตรง หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ผู้เข้าร่วมจะได้รับการทดสอบการอ่าน วัดความดันโลหิตและชีพจร ผู้เชี่ยวชาญยังประเมินสภาพจิตใจ ระดับความนับถือตนเอง และความตื่นเต้น และทำการทดสอบความเครียดอีกด้วย

ผลปรากฏว่าในกลุ่มที่มีหลังตรง ระดับความนับถือตนเองสูงขึ้น ในกลุ่มนี้ ผู้คนรู้สึกกลัวน้อยลงและมีทัศนคติเชิงบวกมากขึ้น ในกลุ่มที่หลังค่อม พบว่ามีอารมณ์เชิงลบมากขึ้น พูดน้อยลง และมุ่งความสนใจไปที่ตัวเองหรือเหตุการณ์เศร้าเป็นหลัก

การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าผู้ที่มีท่าทางตัวตรงมีมุมมองเชิงบวกต่อโลกถึงร้อยละ 92 และท่าทางดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการเรียนรู้

[ 1 ]