นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่ามีน้ำจำนวนมหาศาลอยู่ในชั้นแมนเทิลของโลกเรา

เมื่อไม่นานนี้ นักวิทยาศาสตร์สามารถรวบรวมหลักฐานได้ว่าใต้ชั้นน้ำทุกชั้นของโลกเรานั้นมีแหล่งน้ำสำรองอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าปริมาณน้ำบนพื้นผิวโลกหลายเท่า

ทีมนักวิจัยที่ดำเนินการศึกษานี้เชื่อว่าพวกเขาอาจพบคำตอบสำหรับคำถามที่ค้างใจนักวิทยาศาสตร์มานานว่า โลกของเรามีน้ำอยู่มากแค่ไหน?

สตีฟ เจคอบสัน ผู้เขียนร่วมได้กล่าวไว้ว่า การค้นพบครั้งนี้จะช่วยอธิบายวัฏจักรของน้ำทั้งหมดบนโลกได้ และยังอธิบายถึงปริมาณน้ำมหาศาลบนพื้นผิวโลกได้อีกด้วย นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามค้นหาตำแหน่งของน้ำเหล่านี้มานานหลายทศวรรษแล้ว

การศึกษาใหม่นี้ให้หลักฐานชิ้นแรกสำหรับทฤษฎีที่ถูกเสนอมาหลายปีแล้วว่า น้ำปริมาณมหาศาลสามารถสะสมอยู่ในหินเหนือแกนโลกที่ร้อนจัดของเรา ซึ่งเรียกว่า ริงวูดไดต์ น้ำจะถูกกักไว้ภายใต้แรงดันสูง ซึ่งช่วยเปลี่ยนหินให้กลายเป็นแมกมา

แต่หลายคนสงสัยว่าผู้เชี่ยวชาญสามารถค้นพบสิ่งที่เกิดขึ้นที่ความลึก 650 กิโลเมตรจากพื้นผิวโลกของเราได้อย่างไร นักวิทยาศาสตร์อธิบายทุกอย่างได้อย่างเรียบง่าย นั่นคือ พวกเขาสามารถได้ยินเสียงสะท้อน

มีเครื่องวัดแผ่นดินไหว 2,000 เครื่องตั้งอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกา และด้วยการใช้เครือข่ายเครื่องมือเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์จึงได้ "ได้ยิน" การสั่นสะเทือนที่เกิดจากแผ่นดินไหวขณะที่เคลื่อนตัวลึกลงไปในเปลือกโลก

ผู้เชี่ยวชาญรับฟังเสียงสะท้อนจากแผ่นดินไหวมากกว่า 500 ครั้ง เป็นที่ทราบกันดีว่าหินและน้ำรับรู้การสั่นสะเทือนต่างกัน ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องกำหนดระดับน้ำ แต่ถึงกระนั้น นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงทำการวิจัยต่อไป โดยจำลองความดันที่มีอยู่ ณ ระดับที่พบน้ำใต้ดินในสภาพห้องปฏิบัติการ

ด้วยเหตุนี้ นักวิทยาศาสตร์จึงค้นพบว่าแร่ริงวูดไดต์จะดูดซับน้ำในระดับโมเลกุลเช่นเดียวกับฟองน้ำ ทำให้มีน้ำอยู่มากกว่า 1% (เนื่องจากหินที่อิ่มตัวด้วยน้ำจะกักเก็บแรงสั่นสะเทือนได้นานกว่า)

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเห็นแร่ธาตุนี้เนื่องจากอยู่ลึกเกินกว่าที่จะสกัดตัวอย่างได้ แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าน้ำลึกมีส่วนสำคัญในการก่อตัวของแมกมา

หลายคนสงสัยว่ามนุษย์จะสามารถดึงเอาทรัพยากรที่มีประโยชน์ดังกล่าวออกมาใช้ในอนาคตได้หรือไม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญไม่ถือว่าเป็นไปได้ เนื่องจากไม่ทราบว่าโลกจะเป็นอย่างไรหากมีการรบกวนชั้นแมนเทิล แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์มองว่าการค้นพบนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ

น้ำลึกไม่ใช่น้ำในสถานะที่เราคุ้นเคย แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นสถานะของเหลวรวมที่สี่ ซึ่งอยู่ภายในโครงสร้างโมเลกุลของหิน อุณหภูมิที่สูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียสและน้ำหนักมหาศาลของหินทำให้โมเลกุลของน้ำแตกตัวเป็นอนุมูลไฮดรอกซิล ซึ่งสามารถเกาะติดกับโครงตาข่ายผลึกของแร่ธาตุได้อย่างง่ายดาย

ดังที่ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ว่า หากน้ำลึกทั้งหมดท่วมถึงพื้นผิวโลก ก็จะเห็นเพียงยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกเหนือระดับน้ำทะเลเท่านั้น

[ 1 ]