มนุษย์ยุคโบราณเป็นพวกกินชีส

ทุกวันนี้ ผู้คนรู้จักวิธีปรุงอาหารหลากหลายวิธี ซึ่งถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์สามารถอบ ทอด ต้ม ตุ๋น และวิธีการเหล่านี้ล้วนต้องใช้ไฟ

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยยอร์กได้ทำการศึกษาด้านโบราณคดีอย่างยาวนานและละเอียดถี่ถ้วน โดยผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ยุคดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนโลกเมื่อกว่าล้านปีก่อนไม่ได้แปรรูปอาหารด้วยความร้อน

ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบฟันของมนุษย์โบราณคนหนึ่ง ซึ่งเป็นมนุษย์ยุคไพลสโตซีน โดยได้ตรวจสอบคราบพลัคบนฟันของเขาด้วย ซากอารยธรรมโบราณที่ค้นพบในถ้ำใกล้เทือกเขาอาตาปูเอร์กา ทางตอนเหนือของสเปน ถูกนำมาใช้ในการทดลองครั้งนี้

ปรากฏว่าคนในยุคนั้นไม่ใช้ไฟในการแปรรูปและปรุงอาหาร อาหารของพวกเขา - โดยเฉพาะเนื้อสัตว์และปลา - รับประทานแต่แบบดิบๆ เท่านั้น

ผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Naturwissenschaften ของเยอรมนี สาระสำคัญของการทดลองคือผู้เชี่ยวชาญได้นำเอาคราบพลัคออกจากเศษฟันและวิเคราะห์อนุภาคที่เล็กที่สุดอย่างละเอียด จากข้อสรุปพบว่าคราบพลัคประกอบด้วยซากเนื้อเยื่อสัตว์ ชิ้นส่วนแมลง เกสรจากใบสน และเม็ดแป้ง ขณะเดียวกันก็ไม่พบสัญญาณของการให้ความร้อนกับอาหารที่รับประทาน

จากผลการศึกษา นักโบราณคดีได้ข้อสรุปดังนี้ ในสมัยที่มนุษย์ยุคโบราณอพยพมาจากทวีปแอฟริกาและมาตั้งรกรากอยู่ในดินแดนยุโรปในปัจจุบัน (เมื่อประมาณ 1.2 ล้านปีก่อน) พวกเขายังไม่รู้จักการใช้ไฟ ไฟปรากฏขึ้นในชีวิตของผู้คนในเวลาต่อมาไม่นาน และก่อนหน้านั้น อาหารของพวกเขาประกอบด้วยเนื้อและปลาดิบ ผลิตภัณฑ์จากพืชดิบ และแมลง

เป็นไปได้ที่คนในสมัยก่อนไม่เพียงแต่ไม่รู้จักวิธีใช้ไฟเท่านั้น แต่ยังกลัวไฟด้วย เพราะนอกจากไฟจะให้ประโยชน์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เช่น ให้แสงสว่าง ให้ความอบอุ่น และปกป้องคุ้มครองแล้ว ไฟยังมีพลังทำลายล้างมหาศาลอีกด้วย มนุษย์เคยเห็นผลที่ตามมาของไฟป่า ฟ้าผ่า และลาวาที่ปะทุอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นไฟจึงถือเป็นแหล่งกำเนิดของการทำลายล้างเพียงอย่างเดียวมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว

หลังจากฝึก "มังกรไฟ" สำเร็จแล้ว คนโบราณจึงได้รู้ว่าพวกเขาขาดข้อได้เปรียบอะไรบ้าง เนื่องจากการสร้างไฟเป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนในตอนแรก ดังนั้นจึงต้องมีการเฝ้าระวังและดูแลตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟดับ สำหรับหลายๆ คน การสูญเสียแหล่งกำเนิดไฟกลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความตาย จนกระทั่งผู้คนยอมรับไฟเข้ามาในชีวิตของพวกเขา

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นแรกของการแปรรูปอาหารด้วยไฟพบในซากศพที่มีอายุประมาณ 800,000 ปี นับจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นต้นมา วิวัฒนาการของมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อไฟถือกำเนิดขึ้น มนุษย์ไม่เพียงแต่เรียนรู้ที่จะปรุงอาหารเท่านั้น แต่ยังใช้ไฟเพื่อสนองความต้องการอื่นๆ ในครัวเรือนอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ไฟเริ่มใช้ในการแปรรูปวัสดุต่างๆ (เหล็ก ทองแดง หิน) ให้ความอบอุ่น เผาดินเหนียวเพื่อทำอาหาร ไล่สัตว์ป่า เป็นต้น

ทุกวันนี้ เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงชีวิตปกติที่ไม่มีแหล่งกำเนิดไฟ ความร้อน และแสงสว่าง และการกินเนื้อดิบโดยทั่วไปถือเป็นเรื่องไร้สาระ อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาพบว่าบรรพบุรุษของเรากินเนื้อดิบในลักษณะนั้น