การทดลองทางคลินิกของจอประสาทตาเทียมประสบความสำเร็จ

หลังจากได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการในยุโรป Second Sight ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอุปกรณ์ทดแทน จอประสาทตา Argus II (ภาษากรีกที่แปลว่ามีร้อยตา) ได้เผยแพร่ผลการทดลองทางคลินิกเบื้องต้นระหว่างประเทศในกลุ่มผู้ป่วยตาบอดที่เป็นโรคเรตินิติสพิกเมนโตซา ซึ่งเป็นกลุ่มโรคเสื่อมของตาที่กำหนดทางพันธุกรรมที่ทำให้ตาบอดจนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

Argus II ใช้กล้องขนาดเล็กในแว่นตาของผู้ป่วยเพื่อแปลงภาพเป็นพัลส์ไฟฟ้าสั้นๆ หลายพัลส์ที่ส่งไปยังอิเล็กโทรดชุดหนึ่งที่วางบนพื้นผิวของจอประสาทตา พัลส์เหล่านี้จะกระตุ้นเซลล์ที่เหลือที่ไม่ได้รับผลกระทบของจอประสาทตาเพื่อส่งสัญญาณไปตามเส้นประสาทตาไปยังสมองขึ้นอยู่กับว่าอิเล็กโทรดใดส่งสัญญาณไปยังจอประสาทตา สมองจะได้รับจุดสว่างหรือจุดมืด

ในการทดลองทางคลินิก ผู้ป่วย 30 ราย ซึ่งเฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 6 เดือนถึง 2 ปีครึ่งหรือมากกว่านั้น ได้รับการทดสอบความสามารถในการมองเห็นหลายอย่าง รวมถึงการระบุตำแหน่งสี่เหลี่ยม การกำหนดทิศทางของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ และแผนภูมิตัวอักษรที่รู้จักกันดี นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาการทดสอบพิเศษ 2 แบบสำหรับการวางแนวและการเคลื่อนที่ในสภาพโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำเป็นต้องค้นหาประตูอีกด้านหนึ่งของห้องที่ไม่รู้จัก และเดินตามเส้นสีขาวอ้อมๆ บนพื้น

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Ophthalmology แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญในการปฏิบัติงานด้านการวางแนวและการเคลื่อนไหวใน "สภาพแวดล้อมภายนอก" โดยตัวบ่งชี้สำหรับการระบุตำแหน่งของวัตถุที่เคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น 96% สำหรับการจดจำการเคลื่อนไหว เพิ่มขึ้น 57% สำหรับตารางการทดสอบการมองเห็น เพิ่มขึ้น 23%

Second Sight กล่าวว่าผลการทดสอบแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของ Argus II และชี้ให้เห็นว่าโปรไฟล์ความปลอดภัยของอุปกรณ์นั้น "อยู่ในระดับที่เทียบเคียงได้กับอุปกรณ์และขั้นตอนทางจักษุวิทยาที่เป็นมาตรฐานที่มีอยู่"

“หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ แล้ว Argus II สามารถช่วยให้ผู้พิการทางสายตาสามารถมองเห็นได้” ดร. Stanislao Rizzo ผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมจักษุวิทยาแห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยปิซา (เขาเป็นคนแรกในยุโรปที่ใส่ Argus II ลงในเดือนตุลาคม 2011) กล่าว “ตอนนี้เรามีข้อมูลทางคลินิกแล้ว ผู้ป่วยโรคเรตินิติสพิกเมนโตซาก็มีความหวังมากขึ้น การมองเห็นของพวกเขาสามารถกลับคืนมาได้บางส่วนโดยไม่ต้องเสี่ยงอะไรเพิ่มเติม”

[ 1 ]