โทรทัศน์มีผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์

แม้แต่ความสัมพันธ์ที่โรแมนติกที่สุดก็อาจตกอยู่ในความเสี่ยงได้หากคู่รักฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายนั่งจ้องหน้าจอทีวีตลอดเวลา ตามที่นักวิทยาศาสตร์จาก Albion College กล่าว

จากการวิจัยพบว่า ยิ่งคนเราเชื่อในเรื่องโรแมนติกบนจอโทรทัศน์และละครน้ำเน่ามากเท่าไร โอกาสที่เราจะพบความสัมพันธ์แบบนั้นในชีวิตจริงก็จะน้อยลงเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการศึกษาดังกล่าวสามารถช่วยเหลือคู่รักที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ เนื่องจากการทำความเข้าใจถึงสาเหตุหลักของการสิ้นสุดของความสัมพันธ์ในครอบครัวถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมอีกครั้ง

ดร. เจเรมี ออสบอร์น ผู้เขียนร่วมของงานวิจัยนี้กล่าวว่า “เราพบว่าคนที่เชื่อในนิทานทางทีวีและไม่เข้าใจว่านิทานเหล่านี้เป็นเพียงบทละคร นักแสดง และบทบาทต่างๆ และไม่ใช่ชีวิตจริง มักจะซื่อสัตย์ต่อคู่ครองน้อยลง และมักจะพบว่าตัวละครในทีวีมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่า ฉันหวังว่าผู้คนจะอ่านบทความนี้และพิจารณาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของตนเองและกับผู้อื่นมากขึ้น และประเมินว่าความต้องการที่ตนมีต่อคู่ครองนั้นสมจริงเพียงใด”

คู่สามีภรรยามากกว่า 390 คู่เข้าร่วมในการศึกษาครั้งนี้

อาสาสมัครตอบคำถามเกี่ยวกับความพึงพอใจที่มีต่อความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ความคาดหวังที่มีต่อการแต่งงาน ความเชื่อในความสัมพันธ์แบบโรแมนติกจากทีวี และความถี่ในการชมรายการหรือภาพยนตร์ดังกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญพบว่าผู้ที่เชื่อในความรักผ่านทีวีมักมองว่าความสัมพันธ์ของตนเองเป็นภาระในหลายๆ ด้าน ภาระที่ถูกกล่าวถึงบ่อยที่สุดคือการสูญเสียอิสรภาพส่วนบุคคล การเสียเวลา และคุณสมบัติที่ไม่น่าดึงดูดของคู่รัก

“เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่แทบจะจมอยู่กับสื่อและอยู่ในโลกของโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม ในขณะที่บางคนไม่ค่อยประทับใจกับเรื่องนี้ แต่ก็มีบางคนที่อ่อนไหวต่ออิทธิพลของภาพบนหน้าจอมาก อัตราการหย่าร้างในสหรัฐฯ ไม่เพียงไม่ลดลงแต่ยังเพิ่มขึ้นด้วย คู่รักควรพิจารณาความสัมพันธ์ของตนเองและไม่ควรสร้างความสัมพันธ์โดยยึดหลักการของเทพนิยายโรแมนติก” ศาสตราจารย์ออสบอร์นให้ความเห็น