นมแม่เทียมได้รับการสังเคราะห์

การสนับสนุนและปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นภารกิจหลักของการดูแลสุขภาพในทางปฏิบัติ มีแนวทางหลายประการที่โดดเด่นในการแก้ปัญหานี้ หนึ่งในนั้นคือ การให้อาหารเสริมที่เหมาะสมและทันท่วงทีในช่วงปีแรกของชีวิตทารก รวมถึงการเลือกอาหารทดแทนนมแม่ที่ถูกต้องเมื่อไม่สามารถให้นมแม่ได้

การวิจัยในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาได้เปิดเผยถึงความสำคัญของนมแม่ ซึ่งส่งผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ของทารกตั้งแต่ช่วงเดือนแรกของชีวิต นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ได้ค้นพบองค์ประกอบหลักที่ปกป้องร่างกายของทารกจากเชื้อโรค ซึ่งก็คือโอลิโกแซกคาไรด์ ซึ่งเป็นส่วนที่ย่อยไม่ได้ของคาร์โบไฮเดรตในน้ำนมแม่

ส่วนประกอบนี้ทำให้กรดไขมันสายสั้นและกรดแลคติกถูกผลิตขึ้นในลำไส้ของเด็ก ซึ่งมีส่วนร่วมในการสร้างสารอาหารให้กับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้

น้ำนมแม่มีโอลิโกแซกคาไรด์ในปริมาณที่สูงกว่าโปรตีน แต่ผลกระทบต่อสุขภาพของทารกยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่ สารเหล่านี้แทบจะไม่มีอยู่ในอาหารทารกเลย

การวิจัยของนักวิทยาศาสตร์มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาข้อบกพร่องในการให้นมผงแก่เด็ก

“เราทราบดีว่าโอลิโกแซ็กคาไรด์มีความสำคัญเนื่องจากเป็นส่วนประกอบที่ส่งผลดีต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเกราะป้องกันแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดพิษ เราสนใจบทบาทของโอลิโกแซ็กคาไรด์ในการพัฒนาแบคทีเรียในลำไส้ของทารกที่กินนมแม่ เนื่องจากแบคทีเรียในลำไส้ของทารกที่กินนมผงมีความแตกต่างกัน” ไมเคิล มิลเลอร์ ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาอาหารกล่าว

โอลิโกแซกคาไรด์เป็นส่วนผสมของอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้ หรือที่เรียกว่า พรีไบโอติก ซึ่งมีประโยชน์ต่อการย่อยอาหาร โดยผลดังกล่าวเกิดขึ้นได้จากการกระตุ้นการเติบโตของแล็กโทบาซิลลัสและบิฟิโดแบคทีเรียโดยเฉพาะ

เป็นที่ทราบกันดีว่าเด็กที่กินนมแม่จะมีอาการติดเชื้อในลำไส้น้อยกว่าและระบบภูมิคุ้มกันก็แข็งแรงกว่าด้วย น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นจะถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ได้

เพื่อทำการทดลอง นักวิทยาศาสตร์ได้แยกและวิเคราะห์โอลิโกแซกคาไรด์จากน้ำนมแม่ของทารกคลอดก่อนกำหนด

มีการเติมไฟเบอร์พรีไบโอติกลงในสูตรอาหารที่ใช้ลูกหมูอายุ 9 และ 17 วัน (อายุประมาณ 3 และ 6 เดือนสำหรับทารก) และมีการศึกษาองค์ประกอบของสูตรอาหารสำหรับประชากรแบคทีเรีย

นักวิทยาศาสตร์พบว่าเมื่อโอลิโกแซกคาไรด์ถูกดูดซึม กรดไขมันสายสั้นจะเริ่มก่อตัวขึ้น ซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงสำหรับการพัฒนาแบคทีเรียที่มีประโยชน์ กรดไขมันสายสั้นส่งผลต่อระดับความเป็นกรดในกระเพาะอาหารและยังช่วยป้องกันแบคทีเรียก่อโรคที่เป็นอันตรายอีกด้วย

นักวิจัยระบุว่าโอลิโกแซ็กคาไรด์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากซึ่งจำเป็นต่อพัฒนาการปกติของเด็ก โอลิโกแซ็กคาไรด์สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการรักษาองค์ประกอบของจุลินทรีย์ในลำไส้ให้ปกติ และช่วยป้องกันอาการท้องผูกและภาวะแบคทีเรียผิดปกติในเด็กได้เป็นอย่างดี

“บริษัทบางแห่งได้สังเคราะห์โอลิโกแซกคาไรด์แล้ว ซึ่งจะทำให้ในอนาคตสามารถให้นมเทียมกับทารกและให้นมแม่ได้เท่าเทียมกันมากที่สุด” ศาสตราจารย์มิลเลอร์ให้ความเห็น