ผลการศึกษาวิจัยของอเมริกาเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ในวัยรุ่นได้รับการตีพิมพ์แล้ว

ผลการศึกษาวิจัยของอเมริกาเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ในวัยรุ่นได้รับการเผยแพร่บนเว็บไซต์ของวารสาร Archives of Pediatrics and Adolescent Medicine นิตยสาร Time รายงานว่า ผู้เขียนหลักของการศึกษาวิจัยนี้คือ ดร. ซินเทีย ร็อบบินส์ จากแผนกกุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอินเดียนา ซึ่งให้ความสนใจกับความสำคัญของข้อมูลที่ทันท่วงทีและเชื่อถือได้สำหรับคนหนุ่มสาวเกี่ยวกับ "องค์ประกอบพื้นฐาน" ของเรื่องเพศในวัยรุ่น

การศึกษานี้ใช้ข้อมูลจากการสำรวจในปี 2552 โดยมีวัยรุ่นจำนวน 800 คน อายุระหว่าง 14 ถึง 17 ปี (และผู้ปกครองของพวกเขา รายงานโดย Time) ตอบคำถามเกี่ยวกับความถี่ในการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทำคนเดียวหรือกับคู่ครอง และใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่

ปรากฏว่าเด็กชายวัยรุ่นในสหรัฐฯ เริ่มสำเร็จความใคร่เร็วกว่าและบ่อยกว่าเด็กหญิง โดยผู้ตอบแบบสอบถามชายครึ่งหนึ่งใช้วิธีสำเร็จความใคร่สัปดาห์ละสองครั้ง (ในเด็กหญิงมีเพียง 23%) โดยหลักการแล้ว เด็กชายสามในสี่คนและเด็กหญิงน้อยกว่าครึ่งหนึ่งไม่เขินอายที่จะทำกิจกรรมนี้ (ช่องว่างนี้อาจไม่สะท้อนความเป็นจริง ผู้เขียนบทความระบุ) เมื่ออายุมากขึ้น เปอร์เซ็นต์ของ "ผู้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง" จะเพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นถึง 80% ในผู้ชาย และเพิ่มขึ้นถึง 58% ในผู้หญิง

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่ฝึกสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองมีแนวโน้มที่จะมีเพศสัมพันธ์กับคู่ครองมากกว่า ส่วนผู้ชายในกลุ่มตัวอย่างนี้มีแนวโน้มที่จะใช้การป้องกันมากกว่า และเด็กผู้หญิงยังมีแนวโน้มที่จะมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักและสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเพิ่มขึ้นด้วย

[ 1 ], [ 2 ], [ 3 ], [ 4 ], [ 5 ]