รัฐมนตรีอินเดียเรียกพฤติกรรมรักร่วมเพศว่าเป็นโรคที่ "ไม่เป็นธรรมชาติ"

ในอินเดีย ซึ่งการรักร่วมเพศเพิ่งถูกยกเลิกโทษในปี 2552 การกดขี่กลุ่มคนรักร่วมเพศก็ยังคงดำเนินต่อไป ตัวอย่างเช่น รัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศได้ประกาศว่าการรักร่วมเพศเป็นโรค "ผิดปกติ" ที่ "แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว" ในอินเดีย

“แม้ว่าการรักร่วมเพศจะเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่มันก็ยังคงมีอยู่ในประเทศของเราและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้ยากต่อการตรวจจับ” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกล่าว

“ความสัมพันธ์รักร่วมเพศซึ่งพบได้ทั่วไปในประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้เข้ามาในประเทศของเราด้วยเช่นกัน” Ghulam Nabi Azad รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอินเดียกล่าวในการประชุมเกี่ยวกับโรคเอดส์ที่กรุงเดลี “แม้ว่า (การรักร่วมเพศ) เป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่การรักร่วมเพศยังคงมีอยู่ในประเทศของเราและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้ยากต่อการตรวจจับ” “ทัศนคติกำลังเปลี่ยนไป ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย ตอนนี้การหาโสเภณีหญิงและให้การศึกษากับพวกเธอทำได้ง่ายขึ้น แต่การตรวจจับผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันกลับเป็นปัญหา” Ghulam Nabi Azad บ่น

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนขององค์กรที่สนับสนุนสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศได้ออกมาประณามคำปราศรัยของรัฐมนตรี โดยกล่าวว่าคำพูดของเขาไม่เหมาะสม และ Anand Grover ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิด้านสุขภาพ ได้วิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ของอินเดียอย่างเปิดเผยว่า "เป็นเรื่องน่าเสียดาย น่าเสียใจ และไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่รัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติเช่นนี้... ไม่ใส่ใจต่อความกังวลของกลุ่มคนที่เปราะบาง เช่น กลุ่มรักร่วมเพศ"

ที่น่าสังเกตก็คือ ในปี 2552 ความสัมพันธ์รักร่วมเพศไม่ถือเป็นความผิดทางอาญาในอินเดียอีกต่อไป ศาลได้ยกเลิกกฎหมายสมัยอาณานิคมที่กำหนดให้ความสัมพันธ์รักร่วมเพศเป็น "อาชญากรรมต่อธรรมชาติของมนุษย์" คำตัดสินนี้ได้รับการต้อนรับอย่างกว้างขวางจากชุมชนเกย์ในอินเดีย ซึ่งหวังว่าการเลือกปฏิบัติในประเทศของตนจะสิ้นสุดลง