ความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติทางจิตและประสาทจะถูกกำหนดก่อนเกิด

กิจกรรมที่แตกต่างกันของยีนที่ควบคุมการก่อตัวของสมองในตัวอ่อนกำหนดความเป็นไปได้ของการพัฒนาความผิดปกติทางจิตและประสาท และยังมีอิทธิพลที่ชัดเจนต่อความแตกต่างในโครงสร้างของสมองของผู้ชายและผู้หญิงอีกด้วย

การสร้างเซลล์ประสาทหลายพันล้านเซลล์และการเชื่อมโยงกันมากมายระหว่างเซลล์ประสาทในจีโนมของมนุษย์คิดเป็น 86% ของยีนทั้งหมด การศึกษาบทบาทของยีน "ประสาท" แต่ละยีนในการสร้างสมองดำเนินมาเป็นเวลานานแล้ว แต่การรู้ว่ายีนใดมีหน้าที่รับผิดชอบอะไรนั้นไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องคำนึงด้วยว่ายีนสามารถแสดงกิจกรรมที่แตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่อยู่ และขึ้นอยู่กับระยะการพัฒนาของระบบประสาท

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยล (สหรัฐอเมริกา) ได้ทำการศึกษาวิจัยในวงกว้างเพื่อค้นหาลักษณะเฉพาะเชิงปริภูมิและเวลาของการทำงานของยีนที่กำหนดรูปลักษณ์ของสมองมนุษย์ โดยทำการประมวลผลตัวอย่างเนื้อเยื่อประสาท 1,340 ตัวอย่างที่นำมาจากระยะต่างๆ ของพัฒนาการของมนุษย์ ตั้งแต่ตัวอ่อนอายุ 40 วันไปจนถึงคนอายุ 80 ปี ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพรวมของกิจกรรมทางพันธุกรรมที่ใหญ่โต ซึ่งรวมถึงพารามิเตอร์ 1.9 พันล้านตัว

การวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature ใช้เป็นพื้นฐานสำหรับข้อสรุปมากมาย แต่ข้อสรุปที่น่าสนใจที่สุดมีดังต่อไปนี้ พื้นที่ที่น่าสนใจของนักวิจัยนั้นแน่นอนว่าต้องรวมถึงยีนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของโรคจิตเภทและออทิซึม อาการของโรคทั้งสองนี้เชื่อกันว่าสามารถรับรู้ได้ในช่วงปีแรกของชีวิตหรือในช่วงแรกของการเติบโต ผลการวิเคราะห์กิจกรรมของยีนสอดคล้องกับสิ่งนี้อย่างสมบูรณ์: แสดงให้เห็นว่ายีนเหล่านี้เปิดใช้งานก่อนเกิดด้วยซ้ำ การทำงานของยีนเหล่านี้ในระยะก่อนคลอดกำหนดว่าบุคคลนั้นจะพัฒนาเป็นโรคจิตเภทในอนาคตหรือไม่

นอกจากนี้ แม้แต่ในระหว่างการพัฒนาของตัวอ่อนของมนุษย์ ความแตกต่างทางเพศในกิจกรรมของยีนก็เริ่มปรากฏให้เห็น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าความแตกต่างระหว่างชายและหญิงจะจำกัดอยู่แค่ยีนที่อยู่ในโครโมโซม Y เท่านั้น แต่ปรากฏว่ายีนจำนวนมากที่รับผิดชอบในการสร้างสมองซึ่งมีอยู่ในทั้งสองเพศทำงานแตกต่างกันในผู้ชายและผู้หญิง และความแตกต่างนี้สังเกตได้แม้กระทั่งก่อนเกิด กล่าวอย่างง่ายๆ ความแตกต่างระหว่างเพศในโครงสร้างของสมอง รวมถึงความเสี่ยงต่อโรคทางจิตและประสาท ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระยะพัฒนาการของทารกในครรภ์

ในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าควรจำไว้ว่างานดังกล่าวไม่ได้คำนึงถึงอิทธิพลของปัจจัยภายนอกที่สามารถชะลอการพัฒนาของโรคจิตเภท ในช่วงชีวิต ปัจจัยภายนอกสามารถกำกับการทำงานของยีนอื่นๆ ที่จะต่อต้านยีนตัวแรกที่ทำงานไม่ถูกต้องในตัวอ่อนได้ สำหรับความแตกต่างทางเพศ ยังคงเป็นเรื่องยากมากที่จะจินตนาการถึงปัจจัยภายนอกดังกล่าวที่จะลดลักษณะทางเพศลงเหลือ "ไม่มี"