การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศกระตุ้นให้เกิดโรคทางจิตเพิ่มมากขึ้น

Sydney Morning Herald รายงานโดยอ้างอิงรายงานของ Sydney Climate Institute เรื่อง "Climate of Suffering: The True Cost of Living Without Climate Action" ว่า โรคทางจิตจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ผู้เขียนผลการศึกษาเชื่อว่าการขาดความสามัคคีทางสังคมอันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เลวร้ายซึ่งเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจนำไปสู่ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ความเครียดหลังผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญ และการใช้สารเสพติดเพิ่มมากขึ้น หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ระบุว่าผู้ตอบแบบสำรวจอย่างน้อย 1 ใน 5 คนยอมรับว่าเคยประสบกับ "บาดแผลทางใจ ความเครียด และความสิ้นหวัง" หลังจากเหตุการณ์ธรรมชาติดังกล่าว

รายงานระบุว่า “แม้ว่าพายุไซโคลน ภัยแล้ง ไฟป่า และอุทกภัยจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในออสเตรเลีย แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสภาพอากาศของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไป” “เงื่อนไขเหล่านี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด นั่นคือ เมื่ออากาศอุ่นขึ้น สภาพอากาศจะเลวร้ายลง ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพและชีวิตของผู้คน” รายงานระบุว่า การสูญเสียความสามัคคีทางสังคมอันเนื่องมาจากการสูญเสียงานและความไม่มั่นคงในการทำงานมีส่วนทำให้เกิดภัยแล้งยาวนานในออสเตรเลีย และนำไปสู่การฆ่าตัวตายในเขตชนบทเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่าเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา 1 ใน 10 คนแสดงอาการของโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญหลังจากพายุไซโคลนแลร์รีในปี 2549

ศาสตราจารย์เอียน ฮิกกี้ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมองและจิตใจ กล่าวว่า ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อความสามัคคีทางสังคมมักถูกประเมินต่ำเกินไป แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพจิตของผู้คนและยากที่จะฟื้นฟูได้ เขาย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์สภาพอากาศเลวร้ายอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตในอนาคต

[ 1 ], [ 2 ], [ 3 ], [ 4 ]