การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นการสิ้นเปลืองเงินภาษีของประชาชน

นักวิทยาศาสตร์เผย การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นการ "สิ้นเปลืองเงินภาษีของประชาชน" และประโยชน์ที่ได้รับก็ยังเกินจริงอีกด้วย

มีการใช้จ่ายเงินประมาณ 120 ล้านปอนด์สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี แต่ประโยชน์ในการป้องกันของวัคซีนนั้นเกินจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยและนโยบายโรคติดเชื้อ แห่งมหาวิทยาลัยมินนิโซตา กล่าว

การโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับประโยชน์และประสิทธิภาพของวัคซีนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ผู้เชี่ยวชาญเกรงว่าข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จะทำให้ผู้คนสูญเสียความเชื่อมั่นในความจำเป็นในการฉีดวัคซีนและเลิกฉีดวัคซีน

การสูญเสียทางการเงินครั้งใหญ่ประจำปีที่รัฐบาลต้องเผชิญเป็นสาเหตุที่ทำให้วัคซีนที่พัฒนาขึ้นแล้วไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีการพัฒนาใดๆ ใหม่ๆ และการคาดการณ์ของ WHO ซึ่งกำหนดว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใด ควรรวมอยู่ในโปรแกรมการฉีดวัคซีนตามฤดูกาลนั้นไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

ทอม เจฟเฟอร์สัน นักระบาดวิทยาชาวอังกฤษจากองค์กรไม่แสวงหากำไร The Cochrane Collaboration กล่าวว่ารัฐบาลควรจะต้องรับผิดชอบต่อการใช้เงินของผู้เสียภาษี

รายงานจากศูนย์วิจัยและนโยบายโรคติดเชื้อพบว่าการฉีดวัคซีนของสหราชอาณาจักรสำหรับประชากรกลุ่มอายุ 18 ถึง 64 ปีสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ ได้ 59% แต่มีการวิจัยเพียงเล็กน้อยเพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของวัคซีนในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี

เจ้าหน้าที่รัฐบาลคาดการณ์ว่าการฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนสามารถช่วยชีวิตคนได้ 2,000 รายต่อปี

"ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สามารถช่วยชีวิตคนได้ เราขอเรียกร้องให้นักวิทยาศาสตร์และผู้ผลิตวัคซีนทำงานหนักเพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเราไม่ยอมรับแนวคิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อีกต่อไป ทุกปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้หลายพันคน และเราขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีความเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนและปกป้องตัวเอง" โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าว