เทสโทสเตอโรนสามารถช่วยเอาชนะความหงุดหงิดของผู้ชายได้

เทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนหลักในผู้ชาย แต่เมื่ออายุมากขึ้น ระดับของเทสโทสเตอโรนก็จะลดลง และปรากฏว่าไม่เพียงแต่ทำให้ความต้องการทางเพศลดลงเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุของความหงุดหงิดและความกังวลในผู้ชายที่มีอายุมากขึ้นอีกด้วย

อาสาสมัครที่เข้าร่วมการวิจัยที่ดำเนินการโดยนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันโรคทางเดินปัสสาวะบริสตอลได้รับการฉีดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน 5 ครั้ง หลังจากทำหัตถการได้ไม่นาน ผู้ชายรายงานว่าความต้องการทางเพศของพวกเขาเพิ่มขึ้น สมาธิและความสนใจของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ น้ำหนักของพวกเขาลดลง และพวกเขาก็รู้สึกถึงความแข็งแรงทางกายที่เพิ่มขึ้นด้วย

ผู้ที่เชื่อว่าระดับความต้องการทางเพศของตนต่ำก่อนเริ่มโปรแกรมการบำบัดคิดเป็น 64% หลังจากสิ้นสุดการบำบัด ปรากฏว่าจำนวนผู้ที่ไม่พอใจในชีวิตทางเพศของตนลดน้อยลง และเหลือเพียง 10% เท่านั้น

แม้ว่าการศึกษาวิจัยนี้จะทำกับผู้ชายที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ (hypogonadism) ซึ่งก็คือการหลั่งฮอร์โมนเพศจากอัณฑะน้อยลง แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจนำไปใช้กับผู้ชายกลุ่มใหญ่ขึ้นได้ เช่น ผู้ที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนปกติแต่ลดลงอย่างมากเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มักเกิดขึ้นกับผู้ชายที่อายุมากแล้ว

เทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยต่อมเพศชายทั้งสองข้าง ได้แก่ อัณฑะ และเปลือกสมอง มีหน้าที่ในการพัฒนาลักษณะทางเพศชาย รักษามวลกล้ามเนื้อและสุขภาพกระดูก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในปริมาณที่เพียงพอ และยังช่วยปรับปรุงอารมณ์อีกด้วย

เมื่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายลดลง ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อมีอายุมาก มนุษย์ครึ่งหนึ่งที่แข็งแรงกว่าประมาณร้อยละ 40 อาจประสบกับภาวะที่เรียกว่า "วัยหมดประจำเดือนของผู้ชาย"

ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนปกติอยู่ที่ 12 นาโนโมลต่อลิตร ผู้ชายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำจะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำกว่า โดยมักจะไม่ถึง 8 นาโนโมลต่อเลือด 1 ลิตร เช่นเดียวกับผู้ชายสูงอายุ ผู้ชาย 1 ใน 50 คนอยู่ในกลุ่มนี้

แต่มีสิ่งที่เรียกว่าโซนสีเทา ซึ่งหมายถึงในร่างกายของผู้ชายความเข้มข้นของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะผันผวนระหว่าง 8 ถึง 12 นาโนโมลต่อเลือดหนึ่งลิตร

แพทย์บางคนเชื่อว่าผู้ชายในกลุ่มนี้สามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้ด้วยความช่วยเหลือของเจล และหากเจลไม่ได้ผล ก็ต้องอาศัยการฉีด

Raj Persad ศาสตราจารย์จากสถาบันโรคทางเดินปัสสาวะแห่งบริสตอล กล่าวว่า “ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ ได้แก่ ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน การทำงานหนักเกินไป อาหารที่ไม่ถูกสุขภาพและแอลกอฮอล์ และการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหว การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีและการออกกำลังกายเป็นประจำ รวมถึงการบำบัดด้วยการฉีดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน สามารถเพิ่มพลังชีวิต ฟื้นฟูความต้องการทางเพศ และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้”

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถพูดได้อย่างแน่ชัดว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วย - การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือการบำบัดด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน - แต่พวกเขาก็บอกว่าผลลัพธ์นั้นน่าทึ่งและน่าพอใจ