แบคทีเรียมีนาฬิกา "ภายใน"

ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าแบคทีเรียมี "นาฬิกาภายใน" ของตัวเองที่แตกต่างจากนาฬิกาภายในของมนุษย์ และยังสามารถส่งผลต่อการทำงานของร่างกายมนุษย์ได้อีกด้วย

Jeff McFalden ผู้เขียนโครงการวิจัยใหม่นี้มั่นใจว่าหากคำนึงถึงการทำงานของนาฬิกาภายในของ "แบคทีเรีย" ในระหว่างการรักษา ประสิทธิภาพของการบำบัดจะสูงขึ้นหลายเท่า

ในชิคาโก กลุ่มผู้เชี่ยวชาญให้การสนับสนุนเพื่อนร่วมงานจากออสเตรเลีย พวกเขามั่นใจอีกด้วยว่าในระหว่าง “พฤติกรรมที่กระตือรือร้น” หรือ “หลับ” ของแบคทีเรีย ร่างกายมนุษย์จะไวต่อการรักษามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการออกฤทธิ์ของยาต้านแบคทีเรีย

ความพยายามร่วมกันของกลุ่มวิจัยจากชิคาโกและเมลเบิร์น (ออสเตรเลีย) ได้พิสูจน์แล้วว่าการคำนึงถึงนาฬิกา "ภายใน" ของแบคทีเรียในระหว่างการรักษานั้นมีความสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ายาปฏิชีวนะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงที่แบคทีเรียมี "พฤติกรรมที่กระตือรือร้น" เนื่องจากในช่วงนี้แบคทีเรียจะไวต่อยากลุ่มนี้มากขึ้น

ในห้องปฏิบัติการ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้ทำการทดลอง และผลลัพธ์ก็คือ พวกเขาสามารถเข้าใจแผนการควบคุมจุลินทรีย์ได้

ดร. ไมเคิล รัสต์ ใช้ไซยาโนแบคทีเรีย (รูปแบบชีวิตแรกเริ่ม) ในการวิจัยของเขา ตามที่ดร. รัสต์กล่าว สถานะของแบคทีเรียเหล่านี้ขึ้นอยู่กับแสงแดด เนื่องจากการสังเคราะห์แสงเป็นวิธีการกินอาหารของไซยาโนแบคทีเรีย ปรากฏว่าในเวลากลางคืน แบคทีเรียดังกล่าวจะอดอาหาร กิจกรรมของพวกมันจะช้าลง กล่าวคือ พวกมันจะเข้าสู่ภาวะ "จำศีล" และในระหว่างวัน พวกมันจะเคลื่อนไหวและเติบโต ในการวิจัยของดร. รัสต์ รังสีของดวงอาทิตย์ถูกแทนที่ด้วยน้ำตาล และทฤษฎีนี้ก็ได้รับการยืนยันว่า การแทนที่วิธีการกินอาหารช่วยเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตของแบคทีเรีย และทำให้ "นาฬิกาภายใน" ของพวกมันทำงานพร้อมกันกับกระบวนการเผาผลาญต่างๆ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการค้นพบครั้งนี้จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ในอนาคตเกี่ยวกับวิธีทำให้แบคทีเรียทำหน้าที่เฉพาะ เช่น ใช้เพื่อการปลูกถ่ายยาหรือเพื่อการฟอกในเวลาที่กำหนด

ในอนาคต วิธีการนี้อาจนำไปสู่การคิดค้นวิธีรักษาโรคมาลาเรียได้ ปัจจุบัน ดร. เจฟฟ์ แม็กแฟดเดน กำลังทำการวิจัยด้านนี้อยู่ เชื้อก่อโรคมาลาเรียมีนาฬิกา "ภายใน" ซึ่งกลุ่มของแม็กแฟดเดนกำลังศึกษาอยู่ หากนักวิจัยสามารถค้นพบความลับนี้ได้ ก็จะสามารถพัฒนายารักษาโรคมาลาเรียที่คำนึงถึงเวลา "ภายใน" ของปรสิตได้ในไม่ช้านี้

งานที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นซึ่งพบแบคทีเรียชนิดใหม่ที่กินไฟฟ้า จุลินทรีย์ชนิดใหม่นี้เพิ่งเป็นที่รู้จักเมื่อไม่นานนี้ การค้นพบนี้ทำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโตเกียว แบคทีเรียอาศัยอยู่ในมหาสมุทรที่ระดับความลึกมาก พวกมันชอบอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำพุร้อน แบคทีเรียชนิดหนึ่งได้รับการศึกษาโดยชาวญี่ปุ่น พวกเขาใส่มันลงในภาชนะพิเศษและส่งกระแสไฟฟ้า 1/3 V ผ่านมัน ส่งผลให้แบคทีเรียเพิ่มขึ้น 30% ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที และกลายเป็นสีเข้มขึ้นมาก

การทดลองนี้ชี้ให้เห็นว่าแบคทีเรียใช้พลังงาน ซึ่งนักวิจัยชาวญี่ปุ่นกล่าวว่าการค้นพบดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ได้