น้ำหัวบีทช่วยลดความดันโลหิตในผู้สูงอายุโดยการเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในช่องปาก

ผลกระทบของน้ำหัวบีทไนเตรตสูงต่อการลดความดันโลหิตในผู้สูงอายุอาจเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในไมโครไบโอมในช่องปาก ตามผลการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเภทนี้

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ได้ทำการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารFree Radical Biology and Medicineโดยเปรียบเทียบการตอบสนองของกลุ่มผู้สูงอายุกับกลุ่มผู้ใหญ่ที่อายุน้อยกว่า ก่อนหน้านี้มีการแสดงให้เห็นว่าอาหารที่มีไนเตรตสูงสามารถลดความดันโลหิต ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด บทความมีชื่อว่า "Aging alters the oral microbiome, nitric oxide bioavailability, and vascular responses to diet nitrate supplementation" (อายุที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลต่อจุลินทรีย์ในช่องปาก การดูดซึมไนตริกออกไซด์ และการตอบสนองของหลอดเลือดต่อการเสริมไนเตรตในอาหาร)

ไนเตรตมีความสำคัญต่อร่างกายและมักรับประทานเป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติของอาหารประเภทผัก เมื่อผู้เข้าร่วมที่มีอายุมากกว่าดื่มน้ำบีทรูทเข้มข้นวันละสองครั้งเป็นเวลาสองสัปดาห์ ความดันโลหิตของพวกเขาลดลง ซึ่งเป็นผลที่ไม่พบในกลุ่มที่อายุน้อยกว่า

การศึกษาวิจัยใหม่แสดงหลักฐานว่าผลลัพธ์ดังกล่าวน่าจะเกิดจากการยับยั้งแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายในช่องปาก

ความไม่สมดุลระหว่างแบคทีเรียในช่องปากที่มีประโยชน์และเป็นอันตรายอาจลดการเปลี่ยนไนเตรต (ซึ่งมีมากในอาหารประเภทผัก) ให้เป็นไนตริกออกไซด์ ไนตริกออกไซด์มีบทบาทสำคัญในการทำงานของหลอดเลือด และส่งผลต่อการควบคุมความดันโลหิต

ศาสตราจารย์แอนนี่ แวนทาโล จากมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ ผู้เขียนผลการศึกษากล่าวว่า:

เราทราบกันดีว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไนเตรตมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตไนตริกออกไซด์ของตัวเองน้อยลง ผู้สูงอายุมักมีความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดและหัวใจ เช่น หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง

การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุรับประทานผักที่มีไนเตรตสูงมากขึ้นอาจส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว ข่าวดีก็คือ หากคุณไม่ชอบบีทรูท ก็มีทางเลือกอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยไนเตรต เช่น ผักโขม อารูกูลา เฟนเนล เซเลอรี และผักเคล

การศึกษานี้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุต่ำกว่า 30 ปี จำนวน 39 คน และผู้ใหญ่อายุ 60-70 ปี จำนวน 36 คน ซึ่งคัดเลือกผ่านศูนย์วิจัยการทดลองทางคลินิก Exeter ของ NIHR การศึกษานี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยการทดลองทางคลินิก Exeter

แต่ละกลุ่มใช้เวลาสองสัปดาห์ในการดื่มน้ำบีทรูทที่อุดมด้วยไนเตรตในปริมาณปกติ และอีกสองสัปดาห์ในการดื่มน้ำบีทรูทสูตรยาหลอกที่กำจัดไนเตรตออกไปแล้ว แต่ละภาวะมี "ช่วงพัก" สองสัปดาห์ก่อนเพื่อปรับสมดุลของผลกระทบ จากนั้นทีมวิจัยได้ใช้วิธีที่เรียกว่าการจัดลำดับยีนของแบคทีเรีย เพื่อวิเคราะห์ว่าแบคทีเรียชนิดใดที่พบในช่องปากก่อนและหลังแต่ละภาวะ

ในทั้งสองกลุ่ม องค์ประกอบของไมโครไบโอมในช่องปากเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากดื่มน้ำหัวบีทที่มีไนเตรตสูง แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แตกต่างกันระหว่างผู้เข้าร่วมที่อายุน้อยกว่าและมากกว่า

ในผู้สูงอายุ พบว่าปริมาณแบคทีเรีย Prevotella ในช่องปากลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากดื่มน้ำบีทรูท และปริมาณแบคทีเรียที่ทราบกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น แบคทีเรีย Neisseria เพิ่มขึ้น กลุ่มผู้สูงอายุมีความดันโลหิตเฉลี่ยสูงขึ้นในช่วงเริ่มต้นการศึกษา ซึ่งลดลงได้จากการดื่มน้ำบีทรูทที่อุดมไปด้วยไนเตรต แต่ไม่ได้ลดลงจากการรับประทานยาหลอก

ศาสตราจารย์แอนดี้ โจนส์ ผู้เขียนร่วมการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ กล่าวว่า:

การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าอาหารที่อุดมไปด้วยไนเตรตจะเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในช่องปากในลักษณะที่อาจนำไปสู่การลดการอักเสบและความดันโลหิตในผู้สูงอายุ การศึกษานี้เปิดโอกาสให้มีการศึกษาในวงกว้างขึ้นเพื่อศึกษาผลกระทบของปัจจัยด้านวิถีชีวิตและความแตกต่างทางชีวภาพต่อการตอบสนองของร่างกายต่อการเสริมไนเตรตในอาหาร

ดร. ลี เบนิสตัน รองผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือทางอุตสาหกรรมและการวิจัยและพัฒนาเชิงความร่วมมือของ BBSRC กล่าวเสริมว่า:

“การศึกษาครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมที่แสดงให้เห็นว่าชีววิทยาศาสตร์สามารถช่วยให้เราเข้าใจความเชื่อมโยงที่ซับซ้อนระหว่างอาหาร ไมโครไบโอม และการแก่อย่างมีสุขภาพดีได้ดีขึ้น”

การศึกษานี้เปิดโอกาสใหม่ๆ ในการปรับปรุงสุขภาพหลอดเลือดผ่านโภชนาการ โดยการระบุผลกระทบของไนเตรตในอาหารต่อแบคทีเรียในช่องปากและความดันโลหิตในผู้สูงอายุ BBSRC ภูมิใจที่ได้สนับสนุนความร่วมมือเชิงนวัตกรรมระหว่างนักวิจัยในสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาความรู้และประโยชน์ที่แท้จริง